จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ชั้น 5 ประชาชาติ โดย ณัฏฐ์พิชญ์ วงษ์สง่า montien_dear@yahoo.com
ต้องบอกว่าเห็นกระแสคนไทยแห่ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วน่าตกใจมาก
...ใคร ๆ ก็ไปเที่ยวญี่ปุ่น
ไม่เชื่อลองเสวนากับคนใกล้ตัว หรือส่องเฟซบุ๊กเพื่อนดูก็จะพบว่า บางกลุ่มซื้อทัวร์ไปเที่ยวญี่ปุ่น บางกลุ่มซื้อตั๋วไปตะลุยกันเองแบบสนุกสนาน บางกลุ่มก็ลองไปเปิดโลกเมืองใหม่ ๆ ที่ชื่อยังไม่ค่อยคุ้นหูเราเท่าไหร่นัก
แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ทุกคนมีความสุขที่ได้ไปเที่ยว...
การได้ท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ ในยุคนี้ถือเป็นไลฟ์สไตล์ปกติของคนไทยในทุก ๆ วัยไปเรียบร้อยแล้ว
จะด้วยอิทธิพลของ J- Pop หรือ K-Pop หรือพฤติกรรมการท่องเที่ยวตามกระแสของเพื่อนในโลกโซเชียลมีเดีย หรือเพราะราคาตั๋วโดยสารเครื่องบินที่ถูกลง เพราะมีโลว์คอสต์แอร์ไลน์เข้ามาทำการตลาด หรือไม่นั้น ยังไม่องค์กรใดออกมาระบุ
เพียงแค่คอนเฟิร์มว่า ตอนนี้บรรยากาศคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นแทบจะไม่ต่างจากบรรยากาศของคนจีนมาเที่ยวเมืองไทย
อย่างไรก็ตามจากตัวเลขของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า ในปี 2559 ที่ผ่านมา มีคนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นสูงถึงกว่า 9 แสนคน เพิ่มขึ้นจากประมาณ 6 แสนกว่าคนในปีก่อน
เป็นโมเมนตั้มมาจากการที่ญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการการวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยมาตั้งแต่กลางปี2556
และไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวคนไทยเท่านั้นที่นิยมเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกก็นิยมเช่นกัน
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ JNTO ได้ประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่า จำนวนผู้มาเยือนญี่ปุ่นในปี 2559 อยู่ที่ 24.04 ล้านคน ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ JNTO เริ่มเก็บสถิติในปี 1964
โดยในช่วง 3 ปีหลัง จำนวนผู้มาเยือนญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นถึง 2.4 เท่า
จำนวนผู้มาเยือนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นผลพวงมาจากการประชุมและมหกรรมระดับนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นที่ญี่ปุ่น รวมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นมาตรการปรับระบบการยกเว้นภาษีผู้บริโภคให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ
รัฐบาลประกาศมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากต่างชาติเพิ่มเติมเช่น การเพิ่มจำนวนโรงแรมและแท็กซี่ให้มากขึ้น การเพิ่มความรวดเร็วในการตรวจตราเข้าประเทศญี่ปุ่น ฯลฯ
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังหันมาส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพิ่มมากขึ้น โดยประกาศแผนยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาบุคลากร และระบบที่รองรับผู้ช่วยต่างชาติ และเพิ่มจำนวนสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับนานาชาติมากขึ้น
ที่สำคัญ JNTO ยังได้เปิดตัว Japan On-line Media Center (JOMC) เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ในฐานะแพลตฟอร์มที่สนับสนุนให้สื่อต่างชาติช่วยโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อดึงดูดผู้มาเยือน
โดยสมาชิกผู้ลงทะเบียนกับ JOMC สามารถดาวน์โหลดวิดีโอและภาพมากกว่า 14,000 รายการได้ฟรี เพื่อนำไปใช้เผยแพร่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วยแหล่งท่องเที่ยว ทิวทัศน์ใน 4 ฤดูกาล อาหาร และวัฒนธรรมพื้นเมืองทั่วประเทศญี่ปุ่น
แพลตฟอร์มของ Japan On-line Media Center นั้นเอื้อให้สื่อต่างชาติได้นำเสนอเรื่องราวในทุก ๆ ด้านเกี่ยวกับญี่ปุ่น เพื่อให้สื่อใช้เผยแพร่มนต์เสน่ห์และสถานที่ท่องเที่ยว ของญี่ปุ่น อาทิ จุดชมวิวและภูมิทัศน์ทางธรรมชาติยอดนิยม รวมถึงอาหารและเทศกาลต่าง ๆ
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายมีผู้มาเยือนให้ได้ถึง 40 ล้านคน ในปี 2020 หรือปี 2563
ผู้เขียนเคยคิดหาเหตุผลเหมือนกันว่า ทำไมคนในยุคนี้ถึงนิยมออกไปเดินทางท่องเที่ยวกันมากขึ้น!
แต่พอเจอบทความการสำรวจความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวกว่า1.5 หมื่นคน จาก 20 ประเทศทั่วโลก ชิ้นหนึ่งของ Booking.com ก็ถึงบางอ้อทันที
เพราะข้อมูลที่ได้จากการทำการสำรวจของ Booking.com com นั้นระบุว่า ความตื่นเต้นเร้าใจจากการออกเดินทางรูปแบบต่าง ๆ ครั้งแรกนั้นจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ และเปิดโลกทัศน์ของเราให้กว้างขึ้น และมีส่วนช่วยให้ประสบความสำเร็จในชีวิตมากยิ่งขึ้นด้วย
โดยความตื่นเต้นเร้าใจจากการเดินทางครั้งแรกดังกล่าวรวมถึงการได้รับตราประทับในหนังสือเดินทางครั้งแรก การไปเยือนเมืองใหม่ ๆ รวมถึงทำในสิ่งที่ออกนอกกรอบของตัวเองด้วย
และที่มากกว่านั้นคือ การได้เดินทางไปยังสถานที่ใหม่ ๆ และเปิดใจรับประสบการณ์ที่แตกต่างนั้นจะเป็นแรงบันดาลใจให้เราเปลี่ยนแปลงชีวิตในทางที่ดีขึ้น เพราะจะทำให้เราเป็นคนมั่นใจ เด็ดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น
และมีผู้เดินทางมากกว่า 1 ใน 10 (ร้อยละ 13) ตัดสินใจเปลี่ยนงาน ในขณะที่อีก 1 ใน 10 (ร้อยละ 13) ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ และอีก 1 ใน 5 (ร้อยละ 21) ตัดสินใจย้ายที่อยู่ไปยังสถานที่ใหม่ ๆ หลังจากได้รับประสบการณ์การเดินทางครั้งแรกอืม...มันเป็นอย่างนี้นี่เอง...
ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
