จากประชาชาติธุรกิจ
กรมชลประทาน ชี้แจงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า ในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา มีการระบายน้ำจากเขื่อนมากเกินไป โดยเฉพาะเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ต้นปีมีปริมาณน้ำเหลือ 630 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเขื่อนสามารถเก็บน้ำได้ 1,050 ล้านลูกบาศก์เมตร นั้น
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ได้ชี้แจงในกรณีที่เกิดขึ้นว่า ในช่วงปลายฤดูฝนปี 2559 ที่ผ่านมา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาณน้ำเต็มความจุที่ระดับเก็บกัก 960 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากในขณะนั้นบริเวณด้านเหนือเขื่อนป่าสักฯ ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนจำนวนมาก จำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างน้ำเหนือเขื่อนและปริมาณน้ำท้ายเขื่อน รวมทั้งเพื่อรักษาความมั่นคงของตัวเขื่อนด้วย ทำให้ต้องระบายน้ำส่วนเกินออกจากเขื่อน โดยไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน จนถึงต้นฤดูแล้ง ณ วันที่ 1 พ.ย. 59 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำเต็มความจุที่ 991 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 103 ของความจุที่ระดับเก็บกัก ซึ่งเป็นการชะลอน้ำส่วนเกินนี้ไว้ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยเขื่อน
ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 พ.ย. 59 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้มีการระบายน้ำเพื่อสนับสนุนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และผลักดันน้ำเค็มไปแล้ว รวม 613 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบัน(1 มี.ค. 60) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 557 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 58 ของความจุอ่างฯ และมีปริมาณน้ำใช้การได้ 554 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 58 ของปริมาณน้ำใช้การได้ ซึ่งเพียงพอที่จะสนับสนุนการใช้น้ำในลุ่มน้ำป่าสักและลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างตลอดในช่วงฤดูแล้งนี้ จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
อี.โอ.เอส เกียร์,ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต,#มีดดามัสกัส,#เหล็กดามัสกัส