จากประชาชาติธุรกิจ
โดย ณัฏฐ์พิชญ์ วงษ์สง่า montien_dear@yahoo.com
ผ่านไปอย่างรวดเร็วสำหรับช่วงวันหยุดพักผ่อนช่วงปลายปี หรือช่วงเวลาของการเดินทางท่องเที่ยวส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่สำหรับคนไทย ซึ่งปีนี้รัฐบาลได้ประกาศวันหยุดอย่างเป็นทางการติดต่อกันถึง 4 วัน เอกชนบางแห่งก็ได้หยุดกัน 5-6 วันเลยทีเดียว
ที่สำคัญ รัฐบาลยังให้คนไทยนำรายจ่ายจากการท่องเที่ยวไปเคลมคืนภาษีได้รวมตลอดทั้งปีได้ถึง 30,000 บาท ไม่เพียงเท่านี้ ยังให้นำรายได้จากการช็อปปิ้งไปเคลมคืนภาษีได้อีกถึง 15,000 บาท
บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวและการจับจ่ายในปีนี้จึงดูคึกคักตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคมและลากยาวไปจนถึงสิ้นปีเลยทีเดียวถนนสายหลักที่เข้า-ออกกรุงเทพฯ ยังคงแน่นไปด้วยรถราและติดยาวเหยียดไม่แพ้ทุก ๆ ปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้คาดการณ์การใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวของคนไทยในช่วง 7 วันของเทศกาลปีใหม่ (ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2559-4 มกราคม 2560) ว่าน่าจะมีเม็ดเงินสะพัดไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในประเทศมูลค่าราว 2.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 9.1%
เช่นเดียวกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดการณ์ว่าน่าจะเพิ่มขึ้นราว 8.6% เมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลปีใหม่ของปีก่อนหน้านั้น
ผู้เขียนเองได้ลองประเมินบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาของคนรอบข้างและเพื่อนๆ ในโลกโซเชียล พบว่า 80-90% ของคนรอบข้างและเพื่อน ๆ ในโลกโซเชียลต่างเดินทางท่องเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน
โดยราว 70% เดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดภาคเหนือ เพราะส่วนใหญ่อยากไปรับลมหนาว ซึ่งเชียงใหม่น่าจะยังครองแชมป์เมืองที่เพื่อน ๆ ไปเที่ยวมากที่สุด ที่เหลือก็มีปะปนกันไป อาทิ เชียงราย ลำปาง น่าน ฯลฯ ไล่ยาวมาถึงเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ที่เหลือก็มีกระจายไปตามภูมิภาคต่าง ๆ อาทิ ภูเรือ จังหวัดเลย, เชียงคาน จังหวัดหนองคาย, ไหว้พระแถบจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง รวมถึงกาญจนบุรี
ส่วนที่กระแสดูจะเงียบ ๆ ไปคือ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ส่วนจังหวัดท่องเที่ยวทางทะเลแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะจังหวัดท่องเที่ยวทางภาคใต้ยังเผชิญกับมรสุม ฝนตก น้ำท่วม ไม่เอื้อกับการเดินทางท่องเที่ยว
จากแนวโน้มที่มอนิเตอร์ด้วยตัวเองนี้ สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าคนไทยไม่ได้เที่ยวแบบกระจุก หรือแห่กันไปเที่ยวที่ใดที่หนึ่งเหมือนก่อนหน้านี้ แต่เริ่มกระจายไปยังทุกภูมิภาคและทุก ๆ เมืองแล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามเทรนด์ที่ทางหน่วยงานภาครัฐพยายามจะให้เป็นแบบนี้ เพื่อให้ทุกจังหวัดของไทยมีจุดขายทางด้านการท่องเที่ยว
ประเด็นที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ปีนี้คือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมโดยเน้นชูจุดขายเรื่องวิถีไทยและศิลปวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละท้องถิ่น
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในช่วง7 วันของเทศกาลปีใหม่ลดลงจากช่วงปลายปี 2558 แต่คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินมูลค่าราว 3.83 หมื่นล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 3.7% เมื่อเทียบกับช่วงปีใหม่ของปีก่อน
ทั้งนี้ ททท.ได้สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยในปี 2559 ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 32.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9% สร้างรายได้ 1.65 ล้านล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 13%
ขณะที่ตลาดในประเทศนั้นมีจำนวนนักท่องเที่ยว 145 ล้านคนครั้ง เติบโตเพิ่มขึ้น 4% สร้างรายได้รวม 8.6 แสนล้านบาท เติบโตขึ้น 8% ทำให้ปี 2559 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายได้จากภาคธุรกิจท่องเที่ยวรวมที่ 2.52 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2.4 ล้านล้านบาท
นับว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยในปี 2559 ที่ผ่านมานั้นยังคงสร้างอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
อี.โอ.เอส เกียร์,ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต,#มีดดามัสกัส,#เหล็กดามัสกัส