จากประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 9 ธันวาคม 2559 นายนุกูล วัฒนากร ปลัดอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับมอบอำนาจจากนายรุจน์ประทีป ธรรมรพีภัทร์ นายอำเภอหัวหิน ล่าสุดได้นำแผนผังบริเวณที่มีการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ และภาพถ่ายอาคาร ร้านค้า ที่พักอาศัยที่บุกรุกพื้นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน บริเวณริมถนนนเรศดำริห์ ตั้งแต่สะพานปลาหัวหิน ถึงศาลเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งมีการก่อสร้างอาคาร 40 หลัง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ตามอำนาจในพระราชบัญญัติ (พรบ. )ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน หลังจากพบว่า มีการยึดครองที่ดินและมีการก่อสร้างอาคารบนที่สาธารณประโยชน์
“ผู้บุกรุก มีความผิดตามมาตรา 9 มาตรา 108,108 ทวิตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีปรับไมเกิน 5,000 บาท ทั้งนี้หลังจากแจ้งความร้องทุกข์แล้วฝ่ายปกครองจะร่วมกับเทศบาลเมืองหัวหิน ทำการตรวจสอบอาคารแต่ละหลังว่ามีผู้ใดเป็นผู้ครอบครอง และมีการรังวัดแนวเขตให้ชัดเจน ส่วนกรณีที่ศาลฎีกาสั่งให้ผู้บุกรุก 9 ราย จ่ายค่าปรับรายละ 1- 2 ล้านบาท ตาม พรบ.ควบคุมอาคาร 2522 อำนาจในการสั่งให้รื้อถอนอาคารเป็นของผู้บริหารเทศบาลหัวหิน “ นายนุกูล กล่าว
ด้านแหล่งข่าวจากสำนักงานที่ดินสาขาหัวหิน ระบุ ว่าการแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าวจะทำให้การรื้อถอนล่าช้าออกไปอีกหลายปี ขณะที่เดิมมติที่ประชุมคณะกรรมการระดับจังหวัด เคยเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ใช้คำสั่ง ปว.ที่44/2502 และคำสั่ง คสช.ที่ 4 /2558 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทหารมีอำนาจในการรื้อถอนภายใน 15 วัน แต่ทราบว่าล่าสุดยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ตามมติที่ประชุม ขณะที่หลายฝ่ายมีความเห็นกันว่า คสช.ควรใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อสั่งให้รื้ออาคารทันที เช่นเดียวกับการรื้อรีสอร์ทที่ภูทับเบิก เนื่องจากอาคารทั้งหมดมีการก่อสร้างและทำผิดกฎหมายมานานหลายสิบปี และพบว่าอาคารบ้านพักอาศัย ร้านอาหาร โรงแรมเถื่อนทั้งหมด ยื่นขอใช้บ้านเลขที่ชั่วคราวจากเทศบาลหัวหินเพื่อขอใช้น้ำประปาและไฟฟ้า
สำหรับการแจ้งความดำเนินคดีของฝ่ายปกครอง สืบเนื่องจากผลประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการก่อสร้างอาคาร 40 หลังบุกรุกชายหาดหัวหิน ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาแนวทางในการรื้อถอนอาคารตาม พรบ.ควบคุมอาคาร 2522 และ พรบ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย 2456 ผู้บุกรุกที่มีคำสั่งศาลฎีกาตั้งแต่ปี 2557 จำนวน 9 รายและผู้บุกรุกรายอื่นนอกเหนือคำสั่งศาล ยังไม่แสดงเจตนาในการรื้อถอนอาคารและไม่จ่ายค่าปรับที่ศาลรายละ 1- 2 ล้านบาท นอกจากนั้นได้กำหนดแนวทางการให้แจ้ง ป.ป.ง.ทำการตรวจสอบการทำธุรกิจที่เข้าข่ายการฟอกเงินจากผู้ประกอบการร้านอาหารซีฟู้ดขนาดใหญ่ โรงแรมเถื่อน ฐานความผิดจากการบุกรุกและทำลายทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งแจ้งสำนักงานสรรพากรพื้นที่ตรวจสอบการจ่ายภาษีของผู้ประกอบการทุกราย
ที่มา : มติชนออนไลน์
อี.โอ.เอส เกียร์,ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต,#มีดดามัสกัส,#เหล็กดามัสกัส