จากประชาชาติธุรกิจ
พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามนโยบายรัฐบาล กรณีพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน หมู่ 4 ต.นาจำปา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ โดยมี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานการประชุม ร่วมกับคณะผู้บริหาร ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินการจัดที่ดินตามนโยบายคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) และพบปะเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ต.นาจำปา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์
พื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน ต.นาจำปา อ.ดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับการส่งมอบที่ดินคืนจากเกษตรกรที่กระทำผิดระเบียบ ในพื้นที่ หมู่ 4 ตำบลนาจำปา อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 49 ราย 58 แปลง เนื้อที่ 776-3-03 ไร่ นำมาจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรผู้ยากไร้ไม่มีที่ดินทำกิน ในรูปแบบกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกร ตามนโยบายการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐ และปัญหาผู้ยากไร้ไม่มีที่ดินทำกินและหรือที่อยู่อาศัย ในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ โดยการจัดหาที่ดินแปลงว่างเพื่อนำมาจัดให้เกษตรกร ได้เข้าทำกินและอยู่อาศัยในลักษณะไม่ให้กรรมสิทธิ์และให้บริหารจัดการที่ดินในรูปแบบกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกร ผ่านคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)
ก่อนหน้านี้ จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศที่บริเวณนี้ เนื้อที่ 1,000 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่ายูคาลิปตัสทั้งหมด ปลูกเป็นแถวเป็นแนวยาว และเชื่อว่า จากสภาพการทำเกษตรกรรมนั้นปลูกพืชโดยนายทุนรายเดียว ส.ป.ก.จังหวัด ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบว่า มีนายทุนกว้านซื้อที่ดินไป จึงได้ติดตามทวงคืนโดยดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งผู้ถือครองโดยมิชอบ(นายทุน) ยอมคืนที่ดินให้ ส.ป.ก. และหลังจากกันพื้นที่บางส่วนที่อยู่นอกเขตปฏิรูปที่ดินออกไปแล้ว จึงเหลือพื้นที่ 776 ไร่ โดย ส.ป.ก. ได้นำเสนอเข้าสู่โครงการจัดสรรที่ดินตามคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)
การจัดสรรแบ่งเป็น กลุ่มที่ 1.เกษตรกรรมผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติดงแม่เผด (E) ในชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ ชั้น 1 และชั้น 2 จำนวน 17 ราย
กลุ่มที่ 2.เกษตรกรผู้ยากไร้ไม่มีที่ดินทำกินและหรือที่อยู่อาศัย จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 57 ราย
กลุ่มที่ 3.แปลงที่ดินที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการจัดที่ดิน จำนวน 16 ราย
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ภายหลังจาก ส.ป.ก.ยึดที่มาแล้ว จึงนำพื้นที่ดังกล่าว มาเตรียมพื้นที่เพื่อการจัดสรรกำหนดพื้นที่ (Zoning) โดยใช้แผนที่การเกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก หรือ Agri-Map มาวิเคราะห์ว่า สภาพที่ดินตรงนี้ เหมาะสมกับการปลูกพืชชนิดใด ซึ่งที่ดินบริเวณนี้ส่วนใหญ่ขาดความอุดมสมบูรณ์เนื่องจากการใช้พื้นที่ไม่เหมาะสม จึงกำหนดพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็นหมู่บ้านเพื่อการปศุสัตว์ และได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตร่วมกัน ทั้งเกษตรกรในท้องถิ่นได้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 สำหรับจัดสรรเป็นที่อยู่อาศัยและที่ทำกินรวมกัน จำนวน 289 ไร่ แบ่งเป็นครัวเรือนละ 2 ไร่ 2 งาน เน้นการปลูกพืชผักสวนครัวและพืชที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และพื้นที่ส่วนกลางใช้ประโยชน์ร่วมกัน จำนวน 24 ไร่ ส่วนที่ 2 จัดสรรเป็นแปลงรวมปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ จำนวนประมาณ 500 ไร่
อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักของโครงการนี้ คือ การขาดแคลนแหล่งน้ำบนดิน จากข้อมูลแผนที่น้ำบาดาล ที่ได้จากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พบว่า เมื่อเจาะลึกจากผิวดินลงไปราว 100-150 เมตร จะมีน้ำบาดาลเพียงพอต่อการทำการเกษตร ทำให้เกษตรกร มีน้ำใช้ได้ตลอดปี มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพื้นที่บ้านดงกล้วย เช่น ส.ป.ก. สนับสนุนงบประมาณในการวางแผนโครงสร้างพื้นฐาน การวางผัง การทำถนน เส้นทางการคมนาคมในพื้นที่กรมชลประทาน สนับสนุนงบประมาณในการสร้างหอบังคับน้ำเพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำ
อี.โอ.เอส เกียร์,ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต,#มีดดามัสกัส,#เหล็กดามัสกัส
