สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

นายกฯ ลั่นข้าวไม่ต่ำกว่าเกวียนละหมื่น ชี้ตกเพราะตลาดโลก-ข้าวค้างสต๊อก

นายกฯ ลั่นข้าวไม่ต่ำกว่าเกวียนละหมื่น ชี้ตกเพราะตลาดโลก-ข้าวค้างสต๊อก

จากประชาชาติธุรกิจ

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่ท้องสนามหลวง ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พบปะพูดคุยกับประชาชนที่มาถวายความอาลัยพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีประชาชนส่วนหนึ่งขอให้ช่วยเหลือเรื่องราคาข้าวตกต่ำ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้สั่งการไปเรียบร้อยแล้วในการประชุม กบข. ทั้งนี้ จะให้รัฐบาลนำเงินไปให้ 15,000 เหมือนที่ผ่านมาคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเวลานี้ ข้าวที่ค้างสต๊อกจากโครงการรับจำนำข้าวยังอยู่อีกจำนวนมาก ระบายไม่ได้ ยิ่งนานคุณภาพยิ่งเสื่อม หากระบายออกมาตอนนี้จะกระทบกับราคาข้าวที่ออกมาในฤดูกาลนี้ ทำให้เจ๊งและประเทศก็จะล้มละลาย เพราะเป็นภาษีจากประชาชน แล้วใครที่รับจำนำข้าวไว้ ส่วนราคาข้าวหอมมะลิรัฐบาลได้ช่วยเหลือในฤดูกาลแรกไปแล้ว จึงต้องรอการประชุมอีกครั้ง จึงขอให้ประชาชนปลูกพืชอื่นๆ ทดแทนด้วย

"ยืนยัน ผมเป็นนายกฯของคนทั้งประเทศ ขอให้เห็นใจผมด้วย เพราะต้องดูแลคนทั้งประเทศ และเกษตรกรทุกประเภท และวันนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มารับเรื่องแล้วและรับปากจะช่วยดูแลให้ ปัญหาข้าว มีสาเหตุมาจาก 1.ราคาตลาดโลกที่ราคาข้าวลดลงทั่วโลก 2.ยังมีข้าวที่ค้างสต๊อกจำนวนมาก 3.ทุกประเทศก็ปลูกข้าว ซึ่งต้นทุนในการผลิตข้าวต่อเกวียนประมาณ 4,000 บาท ทั้งนี้ รัฐบาลจะเร่งดูแลให้ราคาข้าวไม่ต่ำกว่าเกวียนละ 10,000 บาทให้ได้ ขณะนี้กำลังทำอยู่ และขอให้เห็นใจผมบ้าง วันนี้ข้าวที่ค้างในคลังเกือบ 10 ล้านตัน ถ้าปล่อยออกมาทั้งหมดแล้วอะไรจะเกิดขึ้น ขณะนี้รัฐบาลจะพยายามแก้ปัญหา ขอให้ใจเย็นๆ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาแนะนำประชาชนด้วยว่า หากปลูกข้าวและขาดทุน ให้ปลูกมันสำปะหลัง ผลไม้ หรือพืชอื่นๆ ผสมผสาน ซึ่งข้าวก็ปลูกไว้กิน ซึ่งพระองค์ท่าน ทรงให้คำแนะนำไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า การปลูกข้าวเพื่อไว้กิน หากเหลือก็ปลูกไว้ขาย หรือปลูกไว้เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าประเภทอื่น จึงขอให้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสดังกล่าวมาปฏิบัติตามด้วย




ที่มา : มติชนออนไลน์


ข้าวดิ่งต่ำสุดรอบ10ปี พาณิชย์ชงนบข. 31 ต.ค. เคาะราคาจำนำยุ้งฉางข้าวเปลือกหอมมะลิ 1 หมื่น/ตัน

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ข้าวดิ่งต่ำสุดรอบ10ปี "พาณิชย์" ชงนบข. 31 ต.ค. เคาะราคาจำนำยุ้งฉางข้าวเปลือกหอมมะลิไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท/ตัน รวมค่าฝากเก็บ 1,500 บาท คาดชาวนาได้เงิน 1.15 หมื่นบาท/ตัน ด้านโรงสีแห่ร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ยเก็บสต๊อกข้าววงเงินกู้ทะลุ 8.59 หมื่นล้านบาท 

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่าหลังจากข่าวสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิปีการผลิต 2559 / 2560 ปรับตัวลดลงอย่างมากโดยล่าสุดราคาล่วงหน้าธ.ค.ทุบสถิติต่ำสุดมากกว่า 10 ปี ข้าวเปลือก(ความชื้น 15%)เหลือ 8,000 กว่าบาท/ตัน หรือเป็นข้าวสาร 15,800 บาท/ตัน จากการที่มีผู้ส่งออกไปการตั้งราคาส่งออก เหลือ 590 เหรียญสหรัฐ/ตันไปยังตลาดจีนนั้น

ล่าสุดน.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) วันที่ 31 ต.ค. 2559 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ทาง กระทรวงพาณิชย์จะเสนอราคารับฝากข้าวเปลือกหอมมะลิในยุ้งฉางเกษตรกร (จำนำยุ้งฉาง) ตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก เบื้องต้นกำหนดราคารับฝากข้าวหอมมะลิในยุ้งฉางของเกษตรกรออกมาแล้วว่าจะกำหนดราคา 90% ของราคาตลาด รวมค่าฝากเก็บอีกตันละ 1,500 บาท เป็นราคารับฝากข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูกาล 2559/60 ในยุ้งฉางของเกษตรกร โดยตั้งเป้าหมายมีข้าวเปลือกเข้าโครงการ 2 ล้านตัน

"ราคา 90% ของราคาตลาดจะใช้คำนวณออกมาแล้วมารวมกับค่าฝากเก็บอีกตันละ 1,500 บาท ซึ่งจะเสนอให้นบข.อนุมัติ นอกจากนี้จะพิจารณาให้กลุ่มสหกรณ์ที่ต้องการเก็บสต๊อกข้าวในยุ้งฉางแต่ไม่มีพื้นที่  สามารถเช่าคลังหรือโกดังของโรงสีมาเข้าร่วมโครงการเก็บสต๊อกข้าวในยุ้งฉางได้ แต่ต้องอยู่ในพื้นที่เดียวกัน จะเป็นอีกช่องทางที่จะช่วยดูดซับปริมาณข้าวมาเก็บสต๊อกไว้ก่อนในช่วงที่ผลผลิตข้าวออกมาพร้อมกัน เพื่อดึงราคาไม่ให้ตกต่ำ" น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าว

สำหรับโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวเก็บสต๊อกข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเปลือกเจ้าฤดูกาล 2559/60 ตั้งแต่ 1 พ.ย. 2559-31 มี.ค. 2560 ขณะนี้ได้รับแจ้งการยื่นรายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการจากธนาคารพาณิชย์ ซึ่งได้กลั่นกรองวงเงินสินเชื่อแล้วจำนวน 11 ธนาคาร มีโรงสีเข้าร่วมโครงการ 354 ราย วงเงินสินเชื่อที่กู้ยืมเพื่อมาซื้อข้าวเก็บสต๊อก 2-6 เดือน มูลค่า 8.59 หมื่นล้านบาท คิดเป็นปริมาณข้าวที่ซื้อเก็บสต๊อก 8.92 ล้านตัน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ว่าโครงการดังกล่าวจะดูดซับปริมาณข้าวในตลาดมาเก็บสต๊อก 8 ล้านตัน

"ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิปัจจุบันอยู่ที่ 600 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่วนข้าวหอมเวียดนามอยู่ที่ 440 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งราคาไม่ห่างกันมาก แต่ข้าวหอมมะลิไทยมีคุณภาพดีกว่า ก็น่าจะทำให้ยอดการส่งออกเพิ่มขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้าส่งออกข้าวหอมมะลิได้ 2 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาส่งออกข้าวหอมมะลิ 1 ล้านตันกว่าๆ" น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าว

ด้านนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะให้สินเชื่อแก่เกษตรกร สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน เพื่อชะลอการจำหน่ายข้าวเปลือกหอมมะลิเก็บในยุ้งฉางนั้น จะกำหนดราคารับฝากเก็บไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท/ตัน (ต้นข้าว 36 กรัมขึ้นไป) ซึ่งเกษตรกรจะได้รับค่าเตรียมข้าวเปลือกขึ้นยุ้งและค่าฝากเก็บเพิ่มจากเงินสินเชื่ออีก 1,500 บาท/ตัน  โดยจะจ่ายให้พร้อมสินเชื่อ 1,000 บาท/ตัน และจ่ายเมื่อไถ่ถอนข้าวหรือระบายข้าวแล้ว 500 บาท/ตัน รวมวงเงินที่เกษตรกรจะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการรับฝากข้าวเปลือกในยุ้งฉาง 1.15 หมื่นบาท/ตัน มีเป้าหมายการเก็บสต๊อกประมาณ 2 ล้านตัน

นอกจากนี้ แนวทางช่วยเหลือในระยะสั้นยังมีโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันสถาบันเกษตรกรโดย ธ.ก.ส. จะให้สินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร เพื่อนำไปซื้อข้าวจากสมาชิกเพื่อจำหน่ายหรือแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งสถาบันเกษตรกรจะรับภาระดอกเบี้ยในอัตรา 1% เป้าหมาย 2.5 ล้านตัน โครงการจัดตลาดนัดข้าวเปลือก เพื่อให้กลไกลตลาดการรับซื้อข้าวเปลือกของเกษตรกรมีการแข่งขัน เกษตรกรมีช่องทางเลือกและมีอำนาจต่อรองการขายข้าวเปลือก พาณิชย์จังหวัดได้กำหนดแผนการจัดตลาดนัดในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากในพื้นที่แล้วจำนวน 42 จังหวัด 102 ครั้ง

นางอภิรดี กล่าวว่า กระทรวงมีแผนผลักดันการตลาดในระดับเอกชน (B2B) จะมีคณะผู้แทนการค้าจาก จีน ฮ่องกง อาเซียน สหรัฐ คานาดา และยุโรป เดินทางมาเจรจาการค้า ที่ประเทศไทยในระหว่างวันที่ 13-16 พย. นี้ นอกจากนี้ไทยจะมีคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปขายข้าวที่จีนและฮ่องกงในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกราคม 2560 และช่วงเดือน กรกฎาคม 2560 แผนจัดคณะไปยุโรป ตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา แคนาดาช่วงเดือน กุมภาพันธ์  มีนาคม มิถุนายน/กรกฏาคม 2560 แผนไปญี่ปุ่นช่วง 7-10 มีนาคม 2560  และไปย้ำตลาดอาเซียน คือ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และ เวียดนามในช่วงกลางปีหน้า โดยจะได้นำมาหารือกับภาคเอกชนในเร็วๆ นี้

ส่วนในระดับผู้บริโภค (B2C)ในต่างประเทศ จะร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ จัดกิจกรรมร่วมกับ Thai Select รายภูมิภาค เพื่อรณรงค์บริโภคข้าวไทยไร้ Gluten โดยจะทำพร้อมๆกันเป็นรายภูมิภาค ส่วนจะเป็นเดือนไหนขณะนี้ได้สั่งการสำนักงานในต่างประเทศให้จัดทำแผนเข้ามาแล้ว นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับห้าง Tesco ในประเทศอังกฤษ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยเน้น Theme ข้าวไทย ซึ่งกำลังเจรจากับบริษัทแม่ในอังกฤษ เพื่อจะจัดใน TESCO ประเทศอื่น ๆ ด้วยพร้อม ๆ กัน ซึ่งปัจจุบัน TESCO มีการลงทุนใน 12 ประเทศทั่วโลก และมีสาขากว่า 6,900 สาขา 


ชาวนาโอด! ราคาต่ำในรอบ 10 ปี กาฬสินธุ์แนะชะลอขายข้าวช่วงราคาตก รอรัฐบาลช่วย

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

วันที่ 31 ตุลาคม 2559 เมื่อเวลา 14.00 น. นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าวระดับจังหวัด จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อให้ทุกภาคส่วนรับทราบสถานการณ์ข้าว รวมทั้งเป็นการสร้างความเข้าใจกับเกษตรกร และแก้ไขปัญหารถเกี่ยวนวดข้าว โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการโรงสีข้าว และองค์กรเกษตรในจังหวัดกาฬสินธุ์เข้าร่วม ที่ห้องประชุม 4/1 ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์

นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวใหม่ปี 2559/2560 และบางพื้นที่มีปัญหาราคาข้าวถูกกดราคาต่ำ ซึ่งถือเป็นความเดือดร้อนของประชาชน จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้ประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าวระดับจังหวัด เพื่อให้ทุกภาคส่วนทราบสถานการณ์ข้าว รวมทั้งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแนวทางจัดหารถเกี่ยวข้าวให้เพียงพอต่อปริมาณข้าวที่เกษตรกรจะเก็บเกี่ยวข้าว ตลอดจนให้ทุกหน่วยงานลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับเกษตรกร ให้ทราบถึงสถานการณ์ราคาข้าว และรอแนวทางการให้ความช่วยเหลือของรัฐบาล เพราะขณะนี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและกำลังร่วมกันกำหนดและวางแนวทางช่วยเหลือปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรควรที่จะชะลอการนำผลิตข้าวออกมาจำหน่วยในช่วงนี้ไปก่อน จนกว่ารัฐบาลจะมีมาตรการให้ความช่วยเหลือต่อไป



นายณัฐภัทร กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ในปีฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวปี 2559/2560 คาดว่าจะมีผลิตผลิตข้าวทั้งหมดประมาณ 520,000 ตัน แยกเป็นข้าวเหนียวประมาณ 370,000 ตัน และข้าวจ้าว 150,000 ตัน ซึ่งการนำข้าวออกมาขายในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ในขณะนี้จะเป็นข้าวหอมมะลิ กข 15 ซึ่งมีการรับซื้อกันในราคาตันละ 6,000 – 7,000 บาท หรือกิโลกรัมละ 6-7 บาท แต่ก็มีจำนวนน้อย เพราะพื้นที่ปลูกข้าวและผลิตข้าวส่วนใหญ่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ในปี 2559/2560 จะเป็นข้าวเหนียวและข้าวหอมมะลิ 105 ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว ดังนั้นผลกระทบจากราคาข้าวตกต่ำในหลายพื้นที่จึงยังไม่กระทบกับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์มากนัก ทั้งนี้เชื่อว่ารัฐบาลจะต้องเร่งหาแนวทางช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้อย่างแน่นอน

ด้านนายประเทือง สะตาเขต อายุ 63 ปี เกษตรกรบ้านโพนสว่าง ม.11 ตำบลโนนสูง อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้ เพราะเกษตรกรที่นำข้าวมาขาย ซึ่งได้ราคากิโลกรัมละ 6 บาทนั้น มีราคาต่ำในรอบ 10 ปี และหากหักค่าปุ๋ย ค่าแรงแล้ว บางรายขาดทุน แต่จำเป็นต้องขาย เพราะไม่มีที่เก็บ และต้องนำเงินไปใช้หนี้ค่าปุ๋ยและค่ารถเกี่ยวข้าว ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือไม่ให้ราคาข้าวตกต่ำไม่มากกว่านี้ อย่างน้อยก็ให้ขายได้ในราคากิโลกรัมละ 8-9 บาท ก็ยังดี และอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องเมล็ดพันธ์พืชไร่ เพราะหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้วเกษตรกรหลายคนที่ต้องการปลูกพืชไม่เหลือเงินที่จะนำไปซื้อเมล็ดพันธ์พืชมาปลูกทำมาหากินต่อไปได้


ที่มา : มติชนออนไลน์


ชาวนาผิดหวังมติ นบข. ชี้ราคาตั้งต้นต่ำกว่าที่ รบ.เคยบอกไว้ เตรียมหารือ 6 สมาคมชาวนา

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

นายสุเทพ คงมาก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังกับมติคณะกรรมการนโยบายและการจัดการข้าว (นบข.) มาก เพราะราคาตั้งต้นต่ำกว่าที่รัฐบาลเคยบอกไว้กับชาวนาที่จะรับจำนำยุ้งฉางตันละ 11,000 บาท เมื่อรวมค่าฝากเก็บอีกตันละ 1,500 บาท ชาวนาก็จะได้ตันละ 12,500 บาท จึงไม่มั่นใจมติ นบข.ว่าจะช่วยดึงราคาข้าวได้หรือไม่ ซึ่ง 6 สมาคมชาวนาก็จะหารือกันอีกครั้ง

ด้าน ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวถึงกรณีผู้ส่งออกรับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิจากชาวนาโดยตรง เป้าหมาย 2 แสนตัน ช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน -15 ธันวาคม 2559 นั้น ทางสมาคมฯไม่ได้กำหนดราคารับซื้อ แต่มีสมาชิกแจ้งความจำนงร่วมโครงการแล้วคิดเป็นข้าวเปลือกหอมมะลิ 5 หมื่นตัน จากคาดว่าจะมีผลผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิออกสู่ตลาด 4-4.5 ล้านตัน ปริมาณสูงกว่าปีปกติ 20% เพราะฝนดี ซึ่งอาจมีผลต่อราคาลดลงเป็นธรรมดา ทั้งนี้ ปกติต่อเดือนข้าวหอมมะลิไทยจะส่งออกไม่เกินเดือนละ 2 แสนตัน ซึ่งราคาข้าวที่ลดลงตอนนี้ผลจากความต้องการโลกลดลง และการแข่งขันตลาดโลกสูง ที่ขายราคาต่ำกว่าไทยและผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมๆ กับไทย

นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ราคาข้าวตกต่ำ เกิดจากปัจจัยภายในและภายนอก อาทิ ประเทศผู้ปลูกข้าวอย่างเวียดนามและอินเดียผลผลิตมากขึ้น และขายต่ำกว่าไทย อีกทั้งประเทศนำเข้าลดปริมาณเพราะเศรษฐกิจภายในไม่ดี ทำให้ข้าวส่งออกไม่คล่องตัวในระยะนี้ ส่วนปัจจัยภายในเมื่อฝนชุกทำให้ชาวนาเร่งปลูกและเร่งเก็บเกี่ยวเมื่อฝนตกหนัก ทำให้ความชื้นสูงขายกลับโรงสีจึงได้ราคาต่ำ อีกทั้งยังมีสต๊อกข้าวเหลือ 8 ล้านตัน

“ไม่อยากให้ชาวนาหรือคนทั่วไปเข้าใจว่า พ่อค้าหรือโรงสีอยู่เบื้องหลังจากปั่นราคาข้าวให้ตกต่ำ ขณะนี้ผู้ส่งออกส่งออกยากมากอยู่แล้ว โดยราคาข้าวขาวไทยอยู่ที่ 350 เหรียญต่อตัน เวียดนามอยู่ที่ 340 เหรียญต่อตัน และเป็นไปไม่ได้ที่พ่อค้าไทยจะเป็นคนกำหนดราคาข้าวทั้งโลก ราคาข้าวตกหรือเพิ่มขึ้น เป็นไปตามกลไกตลาด ราคาไม่ได้ตกแค่ข้าวไทย ประเทศอื่นก็ตก ตอนนี้ผู้ส่งออกพยายามทำวิกฤตเป็นโอกาส เร่งระบายข้าวออกให้มากที่สุด ตอนนี้ทำได้เดือนละ 8 แสนตัน หากราคาต่ำลงอีกอาจระบายได้เดือนละ 1 ล้านตัน อาจส่งออกได้มากกว่าเป้าหมาย 9.5 ล้านตัน เป็น 10-11 ล้านตันก็ได้” นายวิชัยกล่าว



ที่มา มติชนออนไลน์


อี.โอ.เอส เกียร์,ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต,#มีดดามัสกัส,#เหล็กดามัสกัส

Tags : นายกฯ ลั่นข้าวไม่ต่ำกว่าเกวียนละหมื่น ชี้ตกเพราะตลาดโลก-ข้าวค้างสต๊อก

view