จากประชาชาติธุรกิจ
ก่อนวันอาสาฬหบูชาที่ผ่านมา ผมมีนัดสัมภาษณ์ท่านนายแพทย์จรัญ บุญฤทธิการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และประธานมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จะไปขอให้ท่านช่วยประสาทความรู้เรื่องสมุนไพรไทยให้เป็นวิทยาทาน
เดินทางออกจากบริษัทย่านประชานิเวศน์ 1 ประมาณ 9 โมงเศษ ๆ มุ่งหน้าสู่รังสิต-นครนายก นัดท่านช่วงบ่ายโมง เวลาเหลือเฟือเลยถือโอกาสแวะดูโน่นดูนี่ไปเรื่อย ก่อนจะยิงตรงเข้านครนายก และข้ามไปปราจีนบุรี มุ่งตรงไปยังสถานที่นัดหมาย "อภัยภูเบศร เดย์สปา" ที่ตั้งอยู่ในโรงพยาบาล
นั่งสนทนากับคุณหมอจรัญเกือบ 2 ชั่วโมง ได้สาระความรู้ เรื่องสมุนไพรไทยมาประดับปัญญาอย่างมากมาย
ถึงวันนี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่า "อภัยภูเบศร" เป็นผลิตภัณฑ์พืชสมุนไพรไทยที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด และอภัยภูเบศร ยังเป็นผู้ผลิตสินค้าจากพืชสมุนไพรที่ครบวงจรตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก การเก็บเกี่ยว การแปรรูป จนผลิตออกมาเป็นโปรดักต์ และสินค้าทุกอย่างได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตจีเอ็มพี
นอกจากยาสมุนไพรไทยต่าง ๆ แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์อาหาร-เครื่องดื่ม รวมไปถึงเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นลิปบาล์ม โลชั่น ครีนซิ่ง เจลล้างหน้า แชมพู แป้งพัฟ ยาสีฟัน ฯลฯ รวมเบ็ดเสร็จมากกว่า 400 รายการเห็นจะได้ที่กำลังมาแรงและมีแนวโน้มการเติบโตมากขึ้น สินค้ากลุ่มความสวยความงาม หรือคอสเมติก และเพอร์ซันนอลแคร์
ที่สำคัญสินค้าทุกอย่าง ผลิตภัณฑ์ทุกตัว ล้วนทำมาจากพืชสมุนไพรไทยที่ปลูกในระบบเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (มกท.) 
จึงมั่นใจได้เลยว่า ปลอดภัยไม่มียาฆ่าแมลงปนเปื้อนตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
นี่ยังไม่นับรวมร้านยาไทยต้นแบบโพธิ์เงินโอสถที่ให้คำปรึกษาสุขภาพโดยแพทย์แผนไทย จำหน่ายยาต้ม ยาหอม ชาชงสมุนไพร ชุดอบสมุนไพร และบริการนวดไทยอภัยภูเบศร
ได้เรียนถามคุณหมอว่า แต่ละปีขายได้มากน้อยแค่ไหน ท่านบอกเป็นตัวเลขกลม ๆ ว่า ปีละประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นยอดการส่งออกนิดหน่อย
ล่าสุดมีนักธุรกิจสนใจจะมาขอซื้อแฟรนไชส์ "อภัยภูเบศร เดย์สปา" เพื่อนำไปเปิดในเมืองจีน
คิดในใจว่า 300 ล้านบาทก็ไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างน้อยก็สามารถช่วยลดการนำเข้ายาและเครื่องสำอางจากต่างประเทศได้บ้างในระดับหนึ่ง
ก่อนจะจบการสนทนาคุณหมอจรัญท่านย้ำว่า สินค้าอภัยภูเบศรที่ประสบความสำเร็จมาถึงวันนี้ได้ ล้วนมาจากนโยบายและวิสัยทัศน์ของผู้บริหารโรงพยาบาลเมื่อในอดีต การมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มีองค์ความรู้ มีความตั้งใจ สินค้าแต่ละตัวของสมุนไพรทุกตัวมีงานวิจัยมารองรับ มีการสร้างคน มีการพัฒนาองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง และที่ขาดไม่ได้คือ แรงสนับสนุนภาครัฐ
แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ต้องช่วยกันปลูกฝัง ช่วยกันรณรงค์ ช่วยกันสร้างความรู้ความเข้าใจในภูมิปัญญาไทยที่มีมาอย่างยาวนานให้คนรุ่นใหม่ได้ตระหนักและภาคภูมิใจ อาจจะเริ่มจากการปลูกพืชสมุนไพรไว้ในบ้าน ในชุมชน เพื่อกินเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน
การจะผลักดันให้สมุนไพรไทยเติบโตและให้ชาวบ้านมีอาชีพ รัฐบาลต้องเข้ามาสนับสนุนและมีนโยบายที่ชัดเจน ต้องมีการศึกษาให้ถ่องแท้ ต้องมองการณ์ไกล มองไปถึง 5 ปี 10 ปีข้างหน้า ไม่ใช่ว่ากระแสอะไรมาก็เฮตาม อย่างนี้พังหมด
หรือเมื่อผลิตยาสมุนไพรไทยขึ้นมาแล้ว อะไรที่สามารถนำไปใช้ในโรงพยาบาลได้ ภาครัฐก็ควรมีนโยบายส่งเสริม หรือกำหนดเป็นนโยบายให้นำไปใช้ในโรงพยาบาลได้บ้าง
เท่านี้ก็ถือว่าช่วยชาติได้แล้ว
ไหน ๆ มาถึงแหล่งแล้ว ก็ไม่ให้เสียเที่ยวครับ หาของติดไม้ติดมือกลับบ้าน อุดหนุนสินค้าจากพืชสมุนไพรไทย
ควักกระเป๋าช็อปกันเพลินเลยครับ
ไร่รักษ์ไม้,Eosgear,มูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,victorinox,แปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit,ราคา,อร่อย
