จากประชาชาติธุรกิจ
ศาลแขวงเชียงใหม่ผนึกภาคเอกชน ปั้นโมเดล "ศูนย์ประสานงานคดีนักท่องเที่ยวในศาลแขวงเชียงใหม่" รองรับคดีที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ชี้นักท่องเที่ยวทะลักเชียงใหม่เกิดคดีเพียบ ทั้งอุบัติเหตุ ฉ้อโกง-เอารัดเอาเปรียบ หลบหนีเข้าเมืองเตรียมเปิดตัวศูนย์ปลาย พ.ค.นี้ พร้อมเร่งวางรูปแบบสากลเต็มระบบปลายปี 2558 ตั้งเป้าเป็นต้นแบบให้เมืองท่องเที่ยวทั่วไทย
นายพรชัย จิตรนวเสถียร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์ประสานงานคดีนักท่องเที่ยวในศาลแขวงเชียงใหม่ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ศาลแขวงเชียงใหม่ได้ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ผลักดันให้มีการจัดตั้ง "ศูนย์ประสานงานคดีนักท่องเที่ยวในศาลแขวงเชียงใหม่" แห่งแรกของประเทศ ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของกลุ่มงานคดี
นักท่องเที่ยวศาลแขวงเชียงใหม่ ซึ่งศูนย์ดังกล่าวได้รับอนุมัติให้มีการจัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2558 ที่ผ่านมา โดยจะเปิดศูนย์และเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการราวปลายเดือนพฤษภาคม 2558
ทั้งนี้ แนวคิดในการจัดตั้งศูนย์ประสานงานคดีนักท่องเที่ยวในศาลแขวงเชียงใหม่ เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะใช้ศูนย์นี้เป็นหน่วยงานช่วยเหลือนักท่องเที่ยวด้านกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการโดยสำนักงานศาลยุติธรรมที่จะเป็นผู้วางกรอบงานที่ชัดเจน และพัฒนาระบบให้เป็นสากลกรณีพิพาทนักท่องเที่ยวเพิ่มทุกปี
นายพรชัยกล่าวว่า จากการที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แต่ละปีเกิดกรณีพิพาทระหว่างนักท่องเที่ยวเป็นคู่กรณี ทั้งคดีแพ่งหรือคดีผู้บริโภค อันเนื่องมาจากการบริโภคสินค้าหรือบริการของนักท่องเที่ยวรวมถึงคดีอาญาที่นักท่องเที่ยวเป็นผู้เสียหายผู้ต้องหา โจทก์ หรือจำเลย ซึ่งศูนย์ดังกล่าว
จะเป็นกลไกหนึ่งที่สำคัญในการช่วยเหลือและการดำเนินคดีเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรม และคุ้มครองสิทธิของนักท่องเที่ยว รวมถึงการสร้างความรู้สึกมั่นคงและความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว อีกทั้งเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย
สำหรับกลุ่มงานคดีนักท่องเที่ยวศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ได้จัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 มีบทบาทหน้าที่ดูแลงานคดีที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ซึ่งคดีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่มีเป็นจำนวนมาก และเริ่มเข้ามาสู่ชั้นศาลบ้างแล้ว ทั้งคดีที่นักท่องเที่ยวเป็นโจทก์หรือจำเลย เช่น คดีเมาแล้วขับ (กรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่รู้กฎหมายเมาแล้วขับ) เป็นต้น แต่ก็พบว่าคดีที่เข้าสู่ชั้นศาลยังค่อนข้างน้อย
สาเหตุที่คดีความเข้าสู่ชั้นศาลน้อย เนื่องจากเมื่อเกิดปัญหากับนักท่องเที่ยวในกรณีต่าง ๆ นักท่องเที่ยวไม่มีความเข้าใจในกระบวนการและขั้นตอนทางกฎหมายของไทยว่าต้องทำอย่างไร และต้องติดต่อหน่วยงานใด ขณะที่การสื่อสารก็เป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ได้รับความเป็นธรรมตามสิทธิที่ควรจะได้รับ ซึ่งศูนย์นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของกลุ่มงานคดีนักท่องเที่ยวศาลแขวงเชียงใหม่ รวมทั้งจะเป็นหน่วยงานสำคัญที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ของนักท่องเที่ยว ไกล่เกลี่ยประนีประนอม ซึ่งจะทำให้คดีต่าง ๆ ที่จะขึ้นสู่ชั้นศาลลดน้อยลง
เปิดรับอาสาสมัครทนาย-ล่าม
สำหรับคดีที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ เช่น นักท่องเที่ยวถูกรถโดยสารเฉี่ยวชน นักท่องเที่ยวเมาแล้วขับนักท่องเที่ยวนำสีไปพ่นตามสะพาน ทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย นักท่องเที่ยวถูกฉ้อโกงจากการใช้บริการในร้านอาหารหรือสถานบริการ หรือนักท่องเที่ยวถูกจับโดยผิดกฎหมายเพราะไม่มีพาสปอร์ต แต่ข้อเท็จจริงคือนักท่องเที่ยวพาสปอร์ตหาย แต่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นต้น
"หลังจากที่ได้รับแจ้งคดีเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว ทั้งในกรณีที่นักท่องเที่ยวอยู่ในฐานะโจทก์ หรือจำเลย กลุ่มงานคดีนักท่องเที่ยวศาลแขวงเชียงใหม่ โดยศูนย์ประสานงานคดีนักท่องเที่ยวฯ จะจัดหาทนายความอาสา เข้ามารับมอบเรื่องจากนักท่องเที่ยว เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย"
นายพรชัยกล่าวต่อว่า แผนงานในระยะต่อไปคือ การจัดหาอาสาสมัครทั้งอาสาสมัครทนายความ ผู้ไกล่เกลี่ย ล่าม เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมเป็นทีมงานสนับสนุนการทำงานของศูนย์ ซึ่งปัจจุบันมีอาสาสมัครที่สนใจเข้าร่วมโครงการแล้ว ได้แก่ ทนายความอาสา 18 คน ผู้ไกล่เกลี่ยอาสา 3 คน และล่ามแปลภาษาอาสา 6 คน
ปั้นโมเดลต้นแบบเมืองท่องเที่ยว
ขณะเดียวกัน กลุ่มงานคดีนักท่องเที่ยวศาลแขวงเชียงใหม่ ยังมีอีกแผนงานสำคัญคือ การเตรียมทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนศูนย์นี้ ให้มีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และแผนงานประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้ทราบถึงสิทธิและหน้าที่ของนักท่องเที่ยว โดยวางแนวทางจะพัฒนาการทำงานของศูนย์นี้
ให้เป็นมาตรฐานสากลอย่างเต็มระบบภายในปลายปี 2558 เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยมุ่งเน้นถึงสิทธิและหน้าที่ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ และตั้งเป้าให้ศูนย์แห่งนี้เป็นโมเดลต้นแบบให้กับเมืองท่องเที่ยวทั่วไทย
ไร่รักษ์ไม้,Eosgear,มูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,victorinox,แปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit,ราคา,อร่อย