จากประชาชาติธุรกิจ
แม้เหตุการณ์แผ่นดินไหวความรุนแรงระดับ 7.9 แมกนิจูด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับเนปาลและประเทศใกล้เคียง จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3,300 คนแต่ผู้ที่รอดชีวิตอาจต้องเผชิญกับความน่ากลัวครั้งใหม่ เมื่อผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หายนะทางธรรมชาติครั้งเลวร้ายที่สุดยังมาไม่ถึง
บลูมเบิร์ก ระบุว่า แผ่นดินไหวที่เนปาลกระทบเศรษฐกิจของประเทศดังกล่าวอย่างรุนแรง สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐประเมินว่า เนปาล อาจได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติครั้งนี้สูงถึง 9-50% ของจีดีพีประเทศ
ยิ่งไปกว่านั้น ธรณีพิบัติภัยเมื่อวันที่ 25 เมษายน ซึ่งทำให้กรุงกาฐมาณฑุราบเป็นหน้ากลอง อาจจะยังไม่ใช่ "แผ่นดินไหวครั้งใหญ่แห่งหิมาลายัน" ของประเทศแถบนี้
นิตยสาร ดาวน์ ทู เอิร์ท อ้างคำพูดของ นายโรเจอร์ บิลแฮม นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยโคโลราโด โบลเดอร์ ซึ่งศึกษาการเกิดแผ่นดินไหวในแถบเทือกเขาหิมาลายันว่า "ที่ระดับความรุนแรง 7.9 แมกนิจูด แผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์ยังไม่ใช่แผ่นดินไหวครั้งใหญ่แห่งหิมาลายันที่เราคาดว่าจะเกิดขึ้น เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เข้าข่ายธรณีพิบัติภัยครั้งใหญ่เพราะมีความรุนแรงต่ำกว่า 8 แมกนิจูด"
สอดคล้องกับศาสตราจารย์ สันคาร์ คูมาร์ นัธ จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งอินเดียการาปูร์ ผู้ศึกษาการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกแถบหิมาลายัน ซึ่งมีมุมมองในแง่ลบเช่นกัน "แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดถูกจัดอยู่ในกลุ่มความรุนแรงระดับกลางเท่านั้น ในแง่ของพลังงานที่ปลดปล่อยออกมา พื้นที่แถบนี้ซึ่งมีความยาว 2,500 กิโลเมตร กินบริเวณตั้งแต่เทือกเขาฮินดูกูช จนถึงรัฐอรุณาจันประเทศ สามารถที่จะเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงกว่านี้ได้อีก โดยอาจมีขนาดถึง 9 แมกนิจูด ตามมาตราริกเตอร์"
ศาสตราจารย์คูมาร์ นัธเสริมด้วยว่า ถือว่าโชคดีที่เมื่อวันเสาร์ที่แล้วเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.9 แมกนิจูด"ผมคงดีใจที่เกิดแผ่นดินไหว 7.9 แมกนิจูด 2-3 ครั้ง มากกว่ามีการสั่นสะเทือนระดับ 9 แมกนิจูดเพียงครั้งเดียว ซึ่งจะเป็นหายนะอย่างแท้จริง แต่เมื่อพิจารณาจากระดับพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจากแผ่นดินไหว ต้องเกิดการสั่นสะเทือนระดับ 7.9 แมกนิจูด 40-50 ครั้ง จึงจะช่วยป้องกันการเกิดแผ่นดินไหวระดับ 9 แมกนิจูดได้"
ด้านนายเจมส์ แจ็กสัน จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ชี้ว่า ระดับความเสียหายจากแผ่นดินไหวไม่ได้ขึ้นอยู่กับพลังงานที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกเท่านั้น แต่ยังแปรผันตามความหนาแน่นของประชากรด้วย
การเพิ่มจำนวนประชากรอย่างรวดเร็วเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเมื่อเกิดธรณีพิบัติภัย เดอะ ไทมส์ ออฟ อินเดีย อ้างผลการศึกษาเรื่อง "อันตรายร้ายแรงจากแผ่นดินไหวในแถบหิมาลายัน" ว่า
"ประชากรในเขตเมืองของที่ราบลุ่มแม่น้ำคงคาพุ่งขึ้น 10 เท่า ตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวปี 2448 ที่รัฐหิมาจัลประเทศทางตอนเหนือของอินเดีย ซึ่งมีผู้สังเวยชีวิตราว 20,000 คน ปัจจุบันนี้มีประชากรประมาณ 50 ล้านคน ที่มีความเสี่ยงจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่แห่งหิมาลายัน เมืองหลวงของบังกลาเทศ ภูฏาน อินเดีย เนปาล และปากีสถาน รวมถึงอีกหลายเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 1 ล้านคน ล้วนเปราะบางต่อความเสียหายอย่างรุนแรงจากแผ่นดินไหว"
แผ่นดินไหวเป็นเหตุสุดวิสัยก็จริง แต่ก็ต้องยอมรับว่าการขาดแผนการรับมือที่รัดกุมและฝึกซ้อมรับสถานการณ์ รวมถึงสิ่งก่อสร้างที่ไม่พร้อมรับแรงสั่นสะเทือน คือปัจจัยหนุนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก หวังว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวครั้งนี้จะเป็นบทเรียนให้ประเทศแถบนี้ปรับปรุงมาตรการรับมือในอนาคต
ไร่รักษ์ไม้,Eosgear,มูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,victorinox,แปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit,ราคา,อร่อย
