จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ Smart SMEs โดย ไตรรงค์ บุตรากาศ
คอลัมน์ Smart SMEs โดย ไตรรงค์ บุตรากาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าเอสเอ็มอี ทีเอ็มบี
จั่วหัวเหมือนนิยายชีวิต แต่เป็นประสบการณ์เก็บตกจากทริปญี่ปุ่นที่ผ่านมาเมื่อไม่นานนี้ครับ อันเนื่องจากได้พาทีมงานที่มีผลงานดีเยี่ยมไปเยือนประเทศญี่ปุ่นเป็นรางวัลประจำปี มีหลายเรื่องที่อยากเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์เหล่านี้ในประเทศญี่ปุ่น ที่น่าจะทำให้ได้ความคิดใหม่มากขึ้นครับ
1.คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้นมากๆ (เช่นเดียวกันคนจีน)-คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นมากกันอยู่แล้วนะครับ ประสบการณ์กาแฟสำเร็จรูปยี่ห้อแม็กซิมหมดชั้น กระเป๋า ISSEY MIYAKE รุ่นฮิต ๆ ที่เมืองไทยขาดตลาดที่ร้านในญี่ปุ่นก็ไม่มี และคิทแคทชาเขียวกับโฟมล้างหน้า Perfect White ของชิเซโด้ ขายดิบขายดีมีคนซื้อเป็นลัง ๆ จากร้านขายยาในญี่ปุ่น
เหล่านี้เป็นเรื่องที่รู้จักกันมานานนะครับ แต่ยิ่งมากขึ้น ๆ ตั้งแต่รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจยกเลิกการใช้วีซ่าให้กับประเทศไทยนี่แหละครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูก เพราะประเทศที่พัฒนามานานแล้วมาก ๆ จนหมดเครื่องยนต์การเติบโต (Growth Engine) แบบเดิม ๆ ซึ่งส่วนมากเป็นเชิงอุตสาหกรรมนั้น รายได้ส่วนใหญ่ของประเทศพวกนี้มาจากการท่องเที่ยวและบริการนะครับ โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรป ยิ่งประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีวัฒนธรรมที่ดี ขายได้แก่ประชากรโลก ย่อมมีต้นทุนด้านนี้สูงครับ
ไปญี่ปุ่นครั้งนี้ผมแทบจะไม่มีที่ไหนที่ไม่ได้ยินเสียงนักท่องเที่ยวคนไทยเลยครับทุกร้านทุกที่ ร้านขายยา ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้าน Brand Name มือสอง ร้านขนม ร้านกระเป๋า นาฬิกาใหม่ ห้างสรรพสินค้า แม้แต่ร้านที่เมื่อก่อนยังไม่ค่อยมีคนไทยไปก็มีคนไทยไปเดินหาซื้อของครับ รวมถึงที่ที่ไม่มีนักท่องเที่ยวไทยด้วยครับ เพราะมีทั้งเสียงตามสายภาษาไทยและป้ายภาษาไทยแนะนำอยู่ทุกแห่ง ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในปลายทางการท่องเที่ยวสุดยอดนิยมของคนไทยครับ
ผมว่าญี่ปุ่นซึ่งตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจไม่เติบโตเลยมาหลายสิบปีแล้วทำถูกในเรื่องนี้ แน่นอนครับ คนญี่ปุ่นซึ่งมีวัฒนธรรมและแบบแผนเฉพาะเจาะจงมาก อาจจะรู้สึกรำคาญกับความไม่รู้ขนบของนักท่องเที่ยวพวกนี้บ้าง แต่น่าจะคุ้มกับการได้มาซึ่ง Growth Engine ตัวใหม่อันนี้นะครับ
2.การบริการเอาใจใส่แบบญี่ปุ่นยังคงแบบเดิมอยู่เสมอ-ไปคราวนี้ผมต้องไปหาซื้อนาฬิกาROLEXให้ภรรยาเรือนหนึ่งครับ จริง ๆ คิดว่าซื้อเมืองไทยก็ได้ เพราะก็มี Promotion หลากหลาย ทั้งของร้านเอง ของห้าง และของบัตรเครดิต คงลดราคาไปได้พอสมควร รวมถึงร้านที่ไปดูที่เมืองไทยก็ยังมีรุ่นที่อยากได้อยู่ แต่ไหน ๆ ก็จะไปญี่ปุ่นอยู่แล้ว ก็ไปดูซะหน่อย ถ้าไม่ดีก็ยังกลับมาซื้อที่เมืองไทยได้
ผมแวะที่ร้านในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งไม่ได้วางขายรุ่นนี้อยู่ ผมได้สอบถามว่าจะมีมาใหม่ไหม และถ้ามีจะราคาเท่าไหร่ เพราะเพื่อนผมก็จะไปต่างประเทศเร็ว ๆ นี้ รวมถึงผมอาจจะต้องไปต่างประเทศเกี่ยวกับงานอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่สามารถบอกได้ เพราะเราไม่ได้วางไว้ และไม่รู้ว่าจะมีมาหรือเปล่า ผมจึงตั้งใจว่างั้นเราไปลองดูที่ญี่ปุ่นดีกว่า ซึ่งร้านแรกที่ญี่ปุ่นเองก็ไม่มีรุ่นนี้จำหน่าย แต่ได้แจ้งราคาว่าจะมีราคาประมาณนี้ และแนะนำว่าไปอีกห้างหนึ่งใกล้ ๆ กันอาจจะมี ซึ่งไม่มีอีก ผมไปดูที่สถานีรถไฟอื่น ๆ อีก 2-3 ร้าน ก็ยังไม่มีอีกเหมือนกัน แต่บางร้านบอกว่าจะสั่งเข้ามาให้ในวันสองวันนี้ซึ่งไม่ทัน เพราะผมต้องกลับแล้ว
ระหว่างทางเดินกลับ เห็นห้าง ISETAN อยู่ไม่ไกล จึงได้แวะไปเผื่อฟลุก ๆ ปรากฏว่ามี และทางเจ้าหน้าที่ซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย พยายามอธิบายประกอบภาพให้ดู เรื่องวิธีการขอคืนภาษี การทำหนังสือรับประกัน รวมถึงออกมาเดินส่งผมจนออกนอกห้าง สรุปว่าผมซื้อได้ถูกกว่าราคาที่ลดแล้วที่เมืองไทยอีก 10% ครับ ซึ่งสำหรับราคาของนาฬิกาแล้ว ก็คิดเป็นเงินหลายตังค์อยู่ และได้เป็นเงิน (เยน) สดทันทีครับ แม้การสื่อสารทุกเรื่องจะไม่ค่อยเข้าใจเหมือนอยู่เมืองไทย แต่ใจที่ให้ดูเหมือนจะเกินไปหลายร้อยครับ
ยังมีเรื่องน่าสนใจอีกสองเรื่อง แต่พื้นที่หมดแล้ว เดี๋ยวเล่าต่อครั้งหน้านะครับ
ไร่รักษ์ไม้,Eosgear,มูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,victorinox,แปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit,ราคา,อร่อย