จาก โพสต์ทูเดย์
ในหลวงทรงรับสั่งให้ดูแลหลังแม่น้ำสามสายไหลสมทบต้นเดือนพฤศจิกายน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีรับสั่งให้รับมือน้ำท่วมหนักอุบลฯ หลังแม่น้ำชี แม่น้ำมูล แม่น้ำปาว ไหลรวมกันช่วงต้นเดือน พ.ย.นี้
นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีรับสั่งผ่านนายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการสำนักพระราชวัง เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์เร่งหามาตรการเตรียมรับมือน้ำท่วมใหญ่ที่ จ.อุบลราชธานี
เนื่องจากปริมาณน้ำจากลำน้ำชี ลำน้ำมูล ลำน้ำปาว จะไหลมาสมทบเข้าท่วม จ.อุบลราชธานี และภาคอีสานตอนบน ซึ่งจะท่วมหนักกว่า จ.นครราชสีมา และกรุงเทพฯ
สำหรับการรับมือน้ำท่วมกรุงเทพฯ และปริมณฑล นายรอยล กล่าวว่า หากไม่หยุดน้ำเหนือไว้ จะทำให้จังหวัดที่อยู่บริเวณสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจมเป็นเมืองบาดาลทั้ง กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี
ทั้งนี้ เพราะปริมาณน้ำเหนือในระดับหลายพันล้านลูกบาศก์เมตรจะผนวกกับปริมาณน้ำฝน จำนวนมากที่ค้างอยู่ตามทุ่งต่างๆ และช่วงน้ำทะเลหนุนสูงสุดจะยิ่งทำให้ปริมาณน้ำยกระดับตัวสูงขึ้นในบาง พื้นที่จากระดับน้ำปกติ 56 เมตร นอกจากช่วงวันที่ 2627 ต.ค.แล้ว น้ำทะเลจะหนุนสูงสุดในวันที่ 89 พ.ย.อีกรอบ ในระดับสูงสุดเกือบ 2 เมตร
ขณะที่การประชุมคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) นัดแรก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้ทุกหน่วยงานนำเสนอข้อมูลและมาตรการการช่วยเหลือประชาชน โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 26 ต.ค. จะพิจารณาแก้ไขกฎเกณฑ์ของแต่ละหน่วยงาน เพื่อกระจายความช่วยเหลือให้ทั่วถึงและรวดเร็ว
นอกจากนี้ ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและกรมบัญชีกลางจะสรุปเกณฑ์การช่วยเหลือใน พื้นที่น้ำท่วมฉับพลันและน้ำขังเป็นเวลานานให้ ครม.เห็นชอบตัวเลขช่วยเหลือที่ชัดเจน นอกจากนี้จะทบทวนการระบายข้าวเพื่อนำมาช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยด้วย โดยขอให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือแจ้งมายังหมายเลข 1111 ได้ตลอดเวลา
ด้านนายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จะลดปริมาณน้ำที่จะไหลเข้ากรุงเทพฯ ณ จุดวัดน้ำ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่ให้เกิน 3,200 ลบ.ม./ วินาที ในวันที่ 27 ต.ค. ซึ่งน้ำทะเลจะหนุนสูงสุด
ขณะเดียวกัน ได้แจ้งเตือนผ่าน ผวจ.ชัยนาท และชลประทานจังหวัดชัยนาทให้เฝ้าระวังระดับน้ำท้ายเขื่อนที่เพิ่มสูงขึ้นใน ช่วง 12 วันนี้ด้วย จากนั้นหลังวันที่ 27 ต.ค. จะเร่งระบายน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว คาดว่าน้ำทะเลที่จะหนุนสูงสุดในวันที่ 8 พ.ย.อีกรอบคงไม่ส่งผลกระทบ เพราะน้ำเหนือก้อนใหญ่จะไม่มีอีก
ทั้งนี้ หากไม่ลดปริมาณน้ำเหนือในช่วงน้ำทะเลหนุนสูงสุด กรมชลประทานคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยามากถึง 4,0004,200 ลบ.ม./วินาที
