จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ครม.ไฟเขียวตั้ง “องค์กรสำรองข้าวอาเซียนบวกสาม” ไทยลงขันนำข้าวประเดิม 1.5 หมื่นตัน พร้อมตั้งสำนักงานเลขานุการชั่วคราวที่ไทย
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.มีมติอนุมัติการจัดตั้งองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของ อาเซียนบวกสาม (APTERR) โดยในช่วงเตรียมการให้ตั้งสำนักเลขานุการ ที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พร้อมทั้งอนุมัติให้นำข้าวที่ไทยสำรองไว้ (Earmarked Reserve) จำนวน 1.5 หมื่นตัน ภายในความตกลง ASEAN Food Security Reserve (AFSR) มาใช้เป็น Earmarked Reserve ของ APTERR และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายอื่น เป็นผู้ลงนามความตกลง APTERR ในการประชุม ASEAN Ministers on Agriculture and Forestry Plus Three (AMAF+3) ในเดือน ต.ค.2553 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
พร้อมกันนั้น ครม.มีมติอนุมัติสนับสนุนงบประมาณในการจัดตั้งกองทุน APTERR ในวงเงินประมาณปีละ 2.95 หมื่นดอลลาร์ต่อปี เป็นเวลา 5 ปี
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์การจัดตั้งการสำรองข้าว เพื่อเป็นการช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน (Emergency) เพื่อมนุษยธรรม (Humanitarian) และไม่ต้องการให้มีผลกระทบบิดเบือนการค้าข้าวในตลาดปกติ
ที่ ผ่านมาการบริจาคข้าวใน APTERR มีประมาณปีละ 300-800 ตัน หรือประมาณ 0.005% ของปริมาณค้าขายข้าวในภูมิภาค ส่วนการซื้อขายภายใต้กรณีภัยพิบัติฉุกเฉินระหว่างฟิลิปปินส์ และเวียดนามตามความตกลงนี้มีเพียง 1 ครั้ง ปริมาณ 10,000 ตัน หรือประมาณ 0.06% ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อตลาดปกติแต่อย่างใด
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ รายงานว่า ไทยเป็นประเทศผู้นำ (Lead Country) ในการจัดตั้งโครงการนำร่อง เพื่อระบบการสำรองข้าวในเอเชียตะวันออก (East Asia Emergency Rice Reserve: EAERR) เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร กรณีเกิดภัยพิบัติฉุกเฉิน แก้ไขปัญหาความยากจนและขาดแคลนอาหาร และเพิ่มเสถียรภาพราคาข้าวของภูมิภาค
สำหรับการสำรองข้าว APTERR จะมี 2 ประเภท คือ 1.ข้าวสำรองในรูปสัญญา (Earmarked Reserve) ของอาเซียนมีทั้งสิ้น 787,000 ตัน โดยในส่วนของประเทศไทยได้สำรองไว้ 15,000 ตัน ซึ่งแนวทางดำเนินงานตามแนวทางนี้ จะให้ประเทศสมาชิกจับคู่ทำสัญญาซื้อขายในราคาที่เหมาะสม รวดเร็ว ทันต่อการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ขึ้นกับข้อตกลงระหว่างคู่สัญญา
2.ข้าวสำรองจริง (Stockpiled Reserve) จะเป็นข้าวหรือเงินสดที่องค์กรจะได้รับแบบให้เปล่าจากประเทศสมาชิก เพื่อนำไปช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่ประสบภัย ส่วนการบริหารข้าวสำรอง APTERR จะดำเนินการโดยสำนักเลขานุการ APTERR ภายใต้กลไกระบายข้าวที่กำหนด