สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สั่งพาณิชย์-เกษตรฯ เช็กต้นทุนสินค้าฉวยโอกาสโก่งราคา-ฟันกำไร

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

นายกฯ สั่งพาณิชย์-เกษตร เช็กต้นทุนสินค้าใกล้ชิด เน้นปุ๋ย-ยาฆ่าแมลง ป้องกันฉวยโอกาสโก่งราคา-ฟันกำไรช่วงบาทแข็ง พร้อมสั่งสำนักงบฯ ปรับลดงบจัดซื้อสินค้าทุนจากต่างประเทศของราชการ-รัฐวิสาหกิจ ช่วยประหยัดเงินแผ่นดิน “พรทิวา” เตรียมขอ ครม.วันนี้ อนุมัติงบกลาง 500 ล้านบาท ฟื้นการบริโภคในประเทศ ชดเชยส่งออกวูบพิษบาทแข็ง
       
       นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในสถานการณ์ที่เงินบาทแข็งค่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น ไปประเมินราคาสินค้าที่อาจมีผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะสินค้าที่นำเข้า ให้ปรับราคาลงสะท้อนต้นทุนตามความเป็นจริง เพราะการที่เงินบาทแข็งค่า ต้นทุนสินค้าอาจลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่เป็นต้นทุนการผลิตด้านการเกษตร ทั้งยาฆ่าแมลง และปุ๋ยเคมี เพื่อไม่ให้พ่อค้าขายกำไรเกินความเป็นจริง โดยไม่ยอมลดราคาลง
       
       นอกจากนี้ ยังให้กระทรวงการคลังประสานสำนักงบประมาณ ทบทวนตัวเลขงบประมาณจัดซื้อวัสดุจากต่างประเทศของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เพื่อนำมาใช้ในโครงการลงทุนต่างๆว่าจะลดลงเท่าใด จากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณภาครัฐลง
       
       “ได้ฝากผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ให้ไปทบทวนเม็ดเงินงบประมาณที่จัดสรรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในการจัด ซื้อวัสดุในส่วนของงบลงทุนที่ต้องซื้อสินค้าจากต่างประเทศ เพราะเมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ก็น่าจะประหยัดงบประมาณลงได้ ด้วย ณ วันที่จัดสรรงบประมาณ เงินบาทไม่ได้แข็งค่าเท่าปัจจุบัน จึงให้ไปทบทวนดูว่า จะประหยัดลงได้เท่าไหร่”
       
       นายฉัตรชัย ชูแก้ว โฆษกกระทรวงพาณิชย์ ฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติงบกลางรายการสำรองฉุกเฉินหรือจำเป็นวงเงิน 500 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยการเพิ่มสัดส่วนการบริโภคภายในและแก้ไขปัญหาการส่งออกที่ได้รับผลกระทบ อย่างรุนแรงจากการแข็งค่าของเงินบาท
       
       “ขณะนี้ตลาดส่งออกมีปัญหาจึงต้องหาทางเพิ่มสัดส่วนการบริโภคภายใน ประเทศให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อเป็นการทดแทน โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบมากกว่าผู้ประกอบการรายใหญ่จึงต้องหาทางช่วยเหลือให้ SMEs เหล่านี้มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้า ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้ SMEs อยู่รอด ยังช่วยชะลอปัญหาการปิดกิจการ การเลิกจ้างงาน และช่วยลดค่าครองชีพให้ผู้บริโภคจากการนำสินค้ามาขายในราคาถูกด้วย”
       
       สำหรับโครงการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ประกอบด้วย 3 กิจกรรม ได้แก่ 1.กิจกรรมสร้างช่องทางการจำหน่ายและลดภาระค่าครองชีพผู้บริโภคโดยการจัด งานมหกรรมธงฟ้า...มหาชน นำสินค้ามาจำหน่ายในราคาต่ำกว่าท้องตลาด 20-40% มีเป้าหมายจัดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 6 ครั้ง การจัดงานตามเทศกาล 2 ครั้ง และการขยายการจัดงานในระดับอำเภอในพื้นที่อำเภอห่างไกล 76 ครั้ง วงเงิน 373.4 ล้านบาท
       
       2.กิจกรรมเชื่อมโยงและขยายตลาดสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มช่องทางการ จำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกร โดยจะจัดในเทศกาลตรุษจีน 20 จังหวัด การรณรงค์บริโภคไข่ไก่ใน 76 จังหวัด การเชื่อมโยงตลาดผลไม้ วงเงิน 33.52 ล้านบาท และ 3.กิจกรรมส่งเสริมตลาดค้าปลีกโดยการพัฒนาตลาดในความส่งเสริมของกรมการค้าภาย ในให้มีการดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด วงเงิน 93.1 ล้านบาท
       
       ด้าน นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากการที่กรมได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการร้านค้าช่วยลดราคาปุ๋ยและยาฆ่า แมลงเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่า ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2553 ที่ผ่านมาได้ออกตรวจสอบราคาปุ๋ยที่จังหวัดเพชรบุรี พบว่า ร้านค้าได้ลดราคาขายตามราคาแนะนำของกรมเป็นที่เรียบร้อย และขณะนี้ก็ยังไม่มีประชาชนร้องเรียนเข้ามาแต่อย่างใดว่า ได้รับความเดือดร้อนเรื่องราคาปุ๋ยหรือโดนโก่งราคา
       
       อย่างไรก็ตาม หากประชาชน หรือกลุ่มเกษตรกรต้องการตรวจสอบราคาปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ก็สามารถตรวจสอบไปที่เบอร์ 1569 หากพบว่า ราคาไม่เป็นไปตามที่แนะนำก็ร้องเรียนมาได้ที่เบอร์ดังกล่าวเช่นกัน ส่วนกรณีที่ให้มีการตรวจสอบผู้ที่ได้ประโยชน์จากการนำเข้า หลังค่าเงินแข็งค่า กรมก็จะดูแลและควบคุมให้เป็นไปตามราคาที่แนะนำที่ได้ขอความร่วมมือไป เพื่อไม่ให้เกษตรกรได้รับผลกระทบ

Tags :

view