จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
ทีมข่าวหน้าท่องเที่ยว ผู้จัดการออนไลน์ ขอรวบรวมเอากรณีเด็ดๆ ที่แสดงถึงความไร้จิตสำนึกที่เคยเกิดขึ้นในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มารวมไว้ให้ชมกัน เพื่อให้ทุกคนที่ออกเดินทางในฤดูท่องเที่ยวนี้ เที่ยวอย่างมีสติ ไม่หน้ามืดอยากได้รูปสวยๆ มาลงโซเชียลจนลืมนึกถึงความเหมาะสมทั้งปวง |
||||
เริ่มจากบล็อกเกอร์สาวที่ยืนโพสต์ท่าอย่างเท่บนราวระเบียงชมวิวกิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ แต่กลับโดนถล่มจากสังคมโซเชียลจนแทบร่วง ตามข่าว จบทุกคำแถ!! อช.อินทนนท์ชี้ชัด ห้ามปีนราวระเบียงกิ่วแม่ปาน พร้อมคาดโทษไกด์ท้องถิ่นหากละเลย ก็เพราะระเบียงชมวิวนั้นมีไว้ให้ยืนชมวิวด้านล่าง ไม่ใช่ให้ปีนป่ายขึ้นไปจนเสี่ยงอันตราย แม้จะบอกว่าระเบียงนั้นไม่มีป้ายห้ามก็ตาม แต่หากใช้วิจารณญาณ+จิตสำนึกสาธารณะแล้ว ก็น่าจะไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ไม่เพียงบล็อกเกอร์สาวเท่านั้น ดาราหนุ่ม “เจษ เจษฎ์พิพัฒ” ก็เกิดเป็นกระแสในเวลาไล่เลี่ยกันในสถานที่เดียวกัน โดยไปนั่งถ่ายรูปบนระเบียงชมวิวกิ่วแม่ปานลงในอินสตาแกรม ที่คราวนี้ถ่ายภาพมาเห็นป้ายติดชัดเจนเขียนว่า “ห้ามปีนหรือยืนบนราวไม้” แต่ภายหลังเป็นกระแสแรงขึ้นดาราคนนี้ก็ได้ลบภาพออกไป ไม่เพียงสองคนที่กล่าวมานี้เท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวทั่วไปจำนวนมากต่างก็เคยปีนขึ้นไปนั่งหรือยืนบนราวระเบียงชมวิวนี้มาแล้วหลายต่อหลายคน มีภาพให้เห็นในสังคมโซเชียลกันเรื่อยๆ ซึ่งก็หวังว่าหลังจากนี้คงไม่มีภาพเช่นนั้นให้เห็นกันอีก |
||||
คล้ายกันกับกรณีปีนระเบียงชมวิวกิ่วแม่ปาน แต่คราวนี้เรื่องเกิดที่แปลงวิจัยวิจัยดอกเก๊กฮวยของ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ที่กำลังออกดอกสีเหลืองสวยยยไปทั่วบริเวณ ทางมหาวิทยาลัยจึงล้อมเชือกฟางและติดป้าย “ห้ามเข้า” ไว้รอบๆ กันคนเข้าไปถ่ายรูปจนทำให้เกิดความเสียหาย แต่เมื่อดูรูปจากกระทู้ (ห้ามเข้า) ภาพนักท่องเที่ยวไทย ทั้งคนทั้งหมา บุก เซลฟี่ แปลงวิจัยวิจัยดอกเก๊กฮวยของ ม. แม่โจ้ ในเว็บไซต์ pantip.com ก็ถึงกับต้องถอนหายใจยาวๆ เพราะมีใครหาได้แคร์ไม่ ต่างมุดเชือกเข้าไปถ่ายรูปกันสลอน แทรกตัวเข้าไปในแปลงดอกไม้แบบไม่สนโลก ขอให้ได้รูปสวยมาลงโซเชียลเป็นพอ |
||||
เมื่อฤดูชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ก็มักมีข่าวคนมือบอนอยากจะใกล้ชิดดอกไม้เสียจนต้องโน้มกิ่ง ดึงดอก ไปจนถึงเด็ดกิ่งออกมาถ่ายภาพ จนเป็นที่ฮือฮากันมาเมื่อสองปีก่อน (ม.ค. 2557) เมื่อมีนักท่องเที่ยวนิสัยเสียปีนเด็ดกิ่งดอกนางพญาเสือโคร่งที่กำลังบานอย่างคึกคะนองที่โรงเรียนบ้านขุนกลาง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้ปีนขึ้นไปบนกำแพงรั้วโรงเรียนบ้านขุนกลาง เด็ดกิ่งนางพญาเสือโคร่ง ลงมาถ่ายรูป เรียกว่าใช้ความพยายามแบบไม่ถูกที่ถูกทาง จนโดนชาวเน็ตรุมสรรเสริญไปตามๆ กัน |
||||
คล้ายกับกรณีหักกิ่งดอกนางพญาเสือโคร่ง แต่อันนี้เป็นการ “เขย่าต้นเมเปิล” (ธ.ค. 57) โดยมีคลิปยืนยันถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง ที่ได้ปีนไปเขย่าต้นเมเปิลเพื่อให้ใบที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงร่วงหล่นลงมา ในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ด้วยอาการสนุกสนาน คงอยากให้ใบเมเปิลร่วงลงพื้นจะได้ถ่ายรูปได้สวยๆ แต่พฤติกรรมไม่เหมาะสมนี้สร้างความไม่พอใจให้กับสมาชิกในกลุ่มเฟซบุ๊กคนรักภูกระดึง พร้อมมีการแสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่ตำหนิการกระทำดังกล่าวกันอย่างกว้างขวาง |
||||
อีกหนึ่งกรณีของการท่องเที่ยวแบบไม่เหลืออะไรให้คนอื่นชม คือกรณี “ทุ่งหญ้าหิมะ” หรือทุ่งหญ้าคาที่แตกใบและออกดอกสีขาวเป็นปุยสวยงามเต็มท้องทุ่ง เป็นที่ตื่นตาของคนกรุงเทพฯ ซึ่งไม่ค่อยได้เคยเห็นทุ่งหญ้าสวยงามแบบนี้บ่อยนัก จนกลายเป็นกระแสแชร์ภาพต่อมาในโลกโซเซียลจนคนพากันแห่ไปชม ช่างภาพทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพต่างถือกล้องไปถ่ายรูป นายแบบนางแบบต่างบุกตะลุยลงไปในทุ่งหญ้าหามุมที่สวยที่สุด จนทุ่งหญ้าหิมะกลายสภาพเป็นทุ่งหญ้าที่ถูกเหยียบราบไว้ให้คนที่มาทีหลังได้ชม แถมไว้ด้วยขยะเกลื่อนทุ่งไว้ให้ดูต่างหน้า |
||||
วีรกรรม “มือบอน” ในแหล่งท่องเที่ยวก็เป็นอีกหนึ่งนิสัยเสียที่พบเห็นกันได้บ่อย แต่ที่เป็นเรื่องเป็นราวโด่งดังก็เมื่อนักแสดงหนุ่มคนหนึ่งที่เดินทางไปเที่ยว “ภูชี้ดาว” แหล่งท่องเที่ยวใหม่ใน จ.เชียงราย พร้อมทั้งได้ไปเขียนชื่อพร้อมลายเซ็น และอินสตาแกรมของตนเองไว้บนหลักกิโลเมตรบริเวณจุดชมวิวภูชี้ดาว โดยกล่าวว่า “เห็นว่ามีคนเขียนอยู่แล้ว” แถมยังถ่ายภาพข้อความที่เขียนนั้นลงอินสตาแกรมให้ชาวบ้านชาวช่องได้เห็น จนเกิดเป็นประเด็นโจมตีใหญ่โต จนภายหลังดาราหนุ่มต้องออกมาขอโทษในความ “รู้เท่าไม่ถึงการณ์” พร้อมทั้งต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการขึ้นไปทาสีหลักกิโลทับลายมือของตนเองอีกด้วย และอีกหนึ่งกรณีมือบอนที่ต้องเรียกว่า “ไร้จิตสำนึก” ก็คือการมีผู้ไปเขียนชื่อ ข้อความ และวาดรูปภาพทับภาพเขียนสีโบราณบริเวณผนังถ้ำประตูผา จ.ลำปาง ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีประเภทแหล่งฝังศพ และแหล่งเขียนสีของคนยุคประวัติศาสตร์ที่สำคัญในเขตภาคเหนือตอนบน สันนิษฐานว่ามีอายุราว 2,800-3,000 ปีมาแล้ว อีกทั้งยังเป็นสถานที่ซึ่งมีภาพเขียนสีมากที่สุด ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือและใหญ่ที่สุดในเอเชีย รวม 1,872 รูป เรียกว่ามือบอนแบบไร้สติของจริง |
||||
ที่สะพานไม้ไผ่ซูตองเป้ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เป็นสะพานไม้ไผ่ท่ามกลางทุ่งนาอันแสนสงบ ก็ยังมิวายมีนักท่องเที่ยวบางคนที่มีพฤติกรรมคึกคะนอง ขึ้นไปกระโดดอย่างสนุกสนานบนสะพานไม้ไผ่ที่สร้างขึ้นเพื่อให้พระเณรเดินออกรับบิณฑบาต และให้ชาวบ้านเดินไปวัด ไปสวนไปนาได้อย่างสะดวกในช่วงหน้าน้ำหลาก สะพานแห่งนี้แม้จะมีโครงสร้างของเสา คาน เป็นไม้จริง และโครงสร้างบางส่วนเป็นเหล็ก แต่ว่าพื้นสะพานทำเป็นไม้ไผ่สานที่ไม่แข็งแรงนัก เพราะสร้างขึ้นเพื่อรองรับน้ำหนักในการเดินสัญจรไป-มา ธรรมดา ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อรองรับน้ำหนักการกระแทกกระทั้น กระโดด วิ่ง เขย่า ขย่มของนักท่องเที่ยวไร้จิตสำนึก ซึ่งจะเป็นการทำให้สะพานชำรุดทรุดโทรมเร็วขึ้น นับเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง |
||||
และกรณีสุดท้าย คือกรณีที่มีรายการทีวีรายการหนึ่งเข้าไปถ่ายทำการดริฟต์รถลงเขาภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ก.ค. 2556) แต่ได้มีกลุ่มอนุรักษ์ออกมาต่อต้าน และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันในสื่ออินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย โดยทางรายการอ้างได้ควบคุมและป้องกันการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว แต่การกระทำนั้นผิด พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ 2504 เต็มๆ ในมาตรา 16 (9) ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใดนำยานพาหนะเข้าออกหรือขับขี่ยานพาหนะในทางที่มิได้จัดไว้เพื่อการนั้น เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และมาตรา 16 (17) ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใดส่งเสียงอื้อฉาวหรือกระทำการอื่นอันเป็นการรบกวน หรือเป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่คนหรือสัตว์ อีกทั้งภายในพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้ห้ามขับรถเร็วเกินกำหนด 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และห้ามส่งเสียงดังเกินกว่า 80 เดซิเบล นอกจากรับคำด่าไปเต็มๆ แล้ว ก็ยังผิดกฎหมายอีกต่างหาก ดูแต่ละกรณีแล้วก็ไม่มีอะไรจะพูด ขอถอนใจยาวๆ แทนก็แล้วกัน ...เฮ้อออออ |
อี.โอ.เอส เกียร์,ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต,#มีดดามัสกัส,#เหล็กดามัสกัส