จากประชาชาติธุรกิจ
จากกรณีในโลกโซเชี่ยลมีการแชร์ เรื่องราววัยรุ่นจิตอาสา 2 คน เดินเก็บขยะระหว่างทางลงเขาใหญ่ระยะยาว 5 กิโลเมตร โดยไม่ต้องการผลตอบแทน ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงจากนายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้ยืนยันเป็นเรื่องจริงตามที่มีการแชร์ข้อมูลกัน เป็นประจำในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จะพบเห็นบรรดาจิตอาสาส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา นัดหมายร่วมทำกิจกรรมตระเวนเก็บขยะมูลฝอยที่ร่วงหล่นตามถนนภายในอุทยาน ฯ ส่วนใหญ่เกิดจากยานพาหนะที่สัญจรผ่านไปมาเป็นประจำ มีทั้งเกิดจากความมักง่ายและถูกลมพัดออกจากตัวรถในระหว่างแล่นใช้ความเร็ว ส่วนขยะที่อยู่บริเวณลานกางเต้นท์ ทุกช่วงเช้าจะมีเจ้าหน้าที่ผลัดเปลี่ยนเวรยามดูแลรักษาความสะอาดในพื้นที่ รับผิดชอบ จึงไม่มีขยะตกค้าง
ด้านน้องปอ หรือ น.ส.สายธาร ใจเพ็ง อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา จิตอาสา เปิดเผยว่า มีความชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวประเภทป่าเขา น้ำตก จึงถือโอกาสในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา โดยวางโปรแกรม 3 วัน 2 คืน แบกเป้ขึ้นขบวนรถไฟฟรีและโบกรถไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง เพียงลำพัง ในระหว่างรอโบกรถขึ้นเขาใหญ่ ที่ด่านศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ได้รู้จักกับเป้ นายฤทธิเดช เกดตากแดด อายุ 25 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จึงชักชวนเป็นเพื่อนเดินป่าเที่ยวด้วยกัน
"เรื่องราวที่มีการเปิดเผยนั้น เกิดขึ้นในช่วงเวลา 10.00 น. ของวันที่ 22 กพ. ระหว่างเดินเท้าจากจุดกางเต้นท์ ผากล้วยไม้ มุ่งหน้าไปทางแยกปราจีนบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางไปน้ำตกเหวนรก พบเห็นเศษขยะมูลฝอย ทั้งกระดาษทิชชูหรือกระดาษชำระ ถุงขนมขบเคี้ยว ตกหล่นตามริมถนน ขณะเดียวกันก็เห็นลิงฝูงใหญ่อยู่เช่นเดียวกัน จึงหารือกับเพื่อนและกลัวว่าลิงจะกินขยะเข้าไป จึงช่วยกันเก็บขยะที่เห็นไปทิ้งเพื่อไม่ให้รกหูรกตาและสร้างความสะอาดใน พื้นที่อุทยาน ฯ ฝากถึงนักท่องเที่ยว ต้องช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ ถ้าไม่มีป่าเขาน้ำท่าจะเอามาจากไหน โดยเฉพาะปัญหาขยะควรทิ้งให้เป็นที่และในถังขยะเท่านั้น มิเช่นนั้นธรรมชาติจะอยู่กับเราได้ไม่นาน"น้อง ปอ กล่าว
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต