จาก ยูนิลิเวอร์

เพราะ สมองเป็นอวัยวะที่มีการทำงานซับซ้อน ประกอบด้วยระบบประสาทมากมายที่ช่วยในด้านประสาทสัมผัส ความคิด ความจำ รวมไปถึงความรู้สึกต่างๆ โดยช่วงเวลาที่สมองพัฒนามากที่สุดก็คือในช่วงวัยเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง อายุ 5 ปี ดังนั้นในช่วงเวลานี้คุณพ่อและคุณแม่จำเป็นต้องดูแลให้สมองของลูกน้อยพัฒนา อย่างเต็มที่ โดยนอกจากการดูแลให้เด็กได้รับสารอาหารที่เหมาะสมแล้ว ยังมีกิจกรรมหลากหลายอย่างที่ช่วยให้สมองของลูกน้อยพัฒนาอย่างสมวัย ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การฟังเพลง หรือการทำงานศิลปะ หรืองานฝีมืออย่างการทำเปเปอร์มาเช่ คลิกที่นี่สำหรับกิจกรรมงานฝีมือสนุกๆ

แล้ว ทำไมต้องพัฒนาสมองเด็กด้วยงานศิลปะ? นี่อาจเป็นคำถามที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนสงสัย ความจริงแล้วศิลปะนั้นช่วยกระตุ้นการพัฒนาสมองได้หลายทาง แถมยังเป็นกิจกรรมที่สนุกไม่รู้สึกเบื่อ วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อดีของศิลปะ รวมไปถึงการพัฒนาสมองลูกน้อยด้วยศิลปะไว้ทางด้านล่างนี้

ข้อดีของศิลปะต่อการพัฒนาสมอง

• ทักษะ การใช้กล้ามเนื้อ: การทำงานศิลปะนั้นมีความจำเป็นอย่างมากในการใช้กล้ามเนื้อมือ ไม่ว่าจะเป็นการบังคับมือให้ระบายสีให้อยู่ในกรอบ หรือการควบคุมกรรไกรในการตัดกระดาษ นอกจากนี้ลูกน้องยังต้องใช้ตาในการสังเกต ดังนั้นงานศิลปะยังจะช่วยทักษะในการใช้กล้ามเนื้อตาและกล้ามเนื้อมืออย่าง สอดคล้องกัน
• ความ คิดสร้างสรรค์: การทำงานศิลปะจะช่วยกระตุ้นจินตนาการ เพราะลูกน้อยต้องคิดถึงสีที่อยากระบาย หรือสิ่งประดิษฐ์ที่เขาอยากทำ นอกจากนี้หารทำงานศิลปะยังช่วยให้ลูกน้อยเป็นคนช่างสังเกต ประณีต และพิถีพิถันในการทำงานในเวลาเดียวกัน
• พัฒนา ด้านอารมณ์: การจดจ่อกับงานชิ้นใดชิ้นหนึ่งช่วยให้ลูกน้อยมีสมาธิ นอกจากนี้ยังสอนให้ลูกน้อยมีความอดทนเมื่อประสบปัญหา และเรียนรู้ความรับผิดชอบที่จะทำงานให้เสร็จอีกด้วย

งานศิลปะที่เหมาะสมกับเด็ก

• คุณ พ่อคุณแม่ควรดูงานศิลปะที่เหมาะสมกับวัย รวมไปถึงความสนใจของลูกน้อยด้วย เพราะงานศิลปะที่ยากเกินไปหรือที่ลูกไม่ชอบ จะทำให้เด็กไม่สนใจและไม่อยากทำ
• สำหรับ เด็กเล็กมากๆ อย่างเด็กก่อนวัยเรียนหรือเด็กอนุบาล คุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มจากการให้ลูกน้อยทำงานศิลปะที่ใช้กล้ามเนื้อมากๆ อย่างการปั้นดินน้ำมัน หรือการขีดเขียนไปเรื่อยๆ เพราะเด็กเล็กอาจไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อมือได้ดี เมื่อลูกเริ่มใช้มือได้คล่องแล้ว ค่อยๆ สอนให้ลูกวาดภาพง่ายๆ อย่างก้างปลา หรือบ้าน เป็นต้น
• เด็ก ประถมสามารถทำงานศิลปะที่ซับซ้อนมากขึ้นอย่างการประดิษฐ์ของด้วยอุปกรณ์ ต่างๆ แต่คุณพ่อคุณแม่ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกรู้วิธีใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย ไม่ว่าจะเป็นการใช้กรรไกร หรือกาว เป็นต้น

คุณ พ่อและคุณแม่สามารถมีส่วนในการพัฒนาสมองของลูกน้อยได้อย่างง่ายดาย การทำงานศิลปะก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยพัฒนาลูกได้ไม่ว่าจะทั้งทางสมอง ร่างกาย และจิตใจ

ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต