จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
“สิว” เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ หลายคนก็อาจเป็นกังวลกับรอยแผลเป็นที่เกิดตามมาและหาทางแก้ไขให้เลือนหายได้ ยากมาก ปัจจุบันมีเทคโนโลยีทันสมัยที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ได้ แต่เราไม่จำเป็นต้องพึ่งเทคโนโลยีเสมอไป เพราะเราสามารถใช้วิธีธรรมชาติ ด้วยของ 4 อย่างที่หาได้ใกล้ตัว และวิธีการก็ไม่ยาก
1.น้ำมะนาวสด
ในทางการแพทย์ น้ำมะนาวสามารถช่วยรักษาอาการโรคต่างๆ ได้มากมาย แต่อีกหนึ่งคุณสมบัติที่น้ำมะนาวมี คือช่วยในการรักษาสิว - รอยแผล เพราะน้ำมะนาวเป็นกรดอ่อนๆ ที่ช่วยในการกำจัดเนื้อเยื่อที่ตายแล้วหลุดออกไปหรือจางลงได้ การนำน้ำมะนาวมาช่วยปัดเป่ารอยแผลที่เกิดจากสิว ทำได้ 2 วิธี คือ
1.บีบ น้ำมะนาวประมาณ 1-2 หยด แต้มไปที่บริเวณที่เป็นรอยสิวด้วยคัตเติ้ลบัต จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีแล้วล้างออก แต่หากหญิงหรือชายคนไหนที่ไม่แพ้ง่าย สามารถแต้มทิ้งไว้ได้ทั้งคืน แต่วิธีการทิ้งข้ามคืนไม่ใช่วิธีที่อยากแนะนำ เพราะหากทิ้งไว้นานเกินไปนอกจากจะไม่ช่วยในการลอดรอยให้จางลงแล้ว ยังเป็นการทำร้ายผิวทางอ้อมจากสภาวะผิวไหม้จากสารเคมีก็เป็นได้
2.ใช้ น้ำมะนาวผสมกับดินสอพองทาบริเวณที่เป็นรอย สามารถช่วยในการทำให้หน้าไม่ดำและรอยสิวจางลงอีก หรืออาจใช้ใบมะลิสดตำผสมเพิ่มเข้าไปด้วยก็ได้ เพราะใบมะลิเป็นสมุนไพรในการช่วยรักษาแผลเป็นได้เป็นอย่างดี
2.น้ำผึ้ง
เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระและกักเก็บน้ำหล่อเลี้ยงใต้ผิวให้คงความชุ่มชื้น ได้ เพราะมีค่าความเป็นกรดสูง มีปริมาณโปรตีนต่ำ จึงสามารถช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุหนึ่งของ การเกิดสิว และยังมีคุณสมบัติในการช่วยรักษาสิวที่มีอาการไม่รุนแรง และการนำน้ำผึ้งมาเยียวยารักแผลสิวก็ไม่ยาก มี 2 วิธีที่แนะนำ คือ
1.ใช้ น้ำผึ้งประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ หรือให้พอดีกับใบหน้าของเราพอกทั่วใบหน้า หลังจากนั้นใช้มือคลึงเป้นวงกลมให้ทั่วใบหน้าเบาๆ ประมาณ 5-10 แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
2.ใช้ น้ำอุ่นประมาณ ½ ถ้วย ผสมกับเกลือ ¼ ช้อนชา จากนั้นใช้ไม้พันสำลีป้ายน้ำเกลือทาบริเวณที่สิวหรือรอยสิวประมาณ 5-10 นาที เพื่อทำให้ผิวบริเวณนั้นอ่อนนุ่ม หลังจากนั้นจึงเช็ดออก แล้วป้ายน้ำผึ้งลงบริเวณที่เป็นสิวทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออก
3.ว่านหางจระเข้
เป็นพืชสมุนไพรมีส่วนช่วยทำ ให้ผิวพรรณดูผุดผ่อง สดชื่น มีน้ำมีนวล ซึ่งปัจจุบันยังมีคุณสมบัติในการช่วยขจัดสิว และลบรอยจุดด่างดำได้ โดยเฉพาะคุณสมบัติส่วนตัวของวุ้นว่านหางจระเข้ที่มีทั้งวิตามินเอและสังกะสี ในการช่วยสมานแผลที่เกิดจากสิวแล้วยังช่วยในการป้องกันปัญหาสิวที่เกิดขึ้น มีวิธีการง่ายๆ คือ
1.ใช้ น้ำว่านหางจระเข้ล้างหน้า โดยการบีบเอาน้ำจากใบสดเพียง 2-3 หมดผสมกับโฟมล้างหน้า ล้างหน้าให้สะอาด หลังจากนั้นนำเมือกว่านหางจระเข้ทาที่หัวสิวหรือตัดชิ้นเนื้อวุ้นเป็นชิ้น เล็กๆ ปิดไว้ที่หัวสิวแล้วจึงใช้ผ้าก๊อซปิดทับไว้ก่อนเข้านอน นอกจากจะช่วยในการลดสิวแล้วยังสามารถช่วยในการลดลอยแผลที่เกิดขึ้นอีกด้วย
2.นำ ว่านหางจระเข้ปอกเปลือกออกให้เหลือไว้เพียงวุ้น นำวุ้นมาล้างให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นเล็กแล้วนำมาปั่นหรือขยำผสมรวมกับน้ำผึ้ง จากนั้นล้างหน้าให้สะอาด นำส่วนผสมที่ได้พอกหน้าทิ่งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วทำการล้างหน้าออกให้สะอาด วิธีนี้ควรทำให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จึงจะมีประสิทธิภาพดี
4.น้ำแข็ง
วิธีการรักษาสิวด้วยน้ำแข็ง นอกจากจะเป็นวิธีที่สะดวกสบายแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยในการปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดที่ส่งไปยังบริเวณที่ เกิดปัญหาสิว แถมยังช่วยกระชับรูขุมขนพร้อมขจัดสิ่งสกปรก อย่างน้ำมันส่วนเกินที่สะสมบนผิวหน้าของเราอีกด้วย
วิธีการคือนำน้ำแข็งก้อนหรือถุงเย็น มาโปะไว้บริเวณที่มีการอักเสบประมาณ 2-5 นาที หรือจนน้ำแข็งละลาย หลังจากนั้นทำการเช็ดหน้าให้แห้งแล้วตามด้วยทายาหรือครีมบำรุง เพื่อช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการซึมเข้าสู่ผิวของผลิตภัณฑ์ที่เราใช้
ทั้งนี้ เพื่อให้การรักษาสิวมีประสิทธิภาพมากขึ้นและความสะอาดของน้ำแข็ง ควรใช้ถุงเย็นหรือถ้วย Styrofoam ใส่น้ำและนำไปแช่ในช่องฟรีซ นำน้ำแข็งที่ได้มาโปะบริเวณที่อักเสบวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ครั้งละ 2-5 นาที
ข่าวโดย : กมลชนก บุญเพ็ง
ภาพทั้งหมดจาก www.pixabay.com
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต