จากประชาชาติธุรกิจ
เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ”คำกล่าวที่ยังใช้ได้ เหมาะกับทุกยุคสมัย ด้วยพ่อแม่หลายคนใฝ่ฝันและปรารถนาอยากให้ ‘ลูก’ เป็นเด็กดี เก่ง...ฉลาด และมีความเชื่อว่า เด็กจะฉลาดได้นั้นต้องมาจากสายพันธุ์ หรือยีนส์ของพ่อแม่ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเพียงเป็นองค์ประกอบหนึ่ง หากแต่การอบรมเลี้ยงดู และสิ่งแวดล้อมนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะพัฒนา ‘สมอง’ หล่อหลอมทั้ง ไอคิว (IQ) และ อีคิว (EQ) สู่ความเป็น ‘อัจฉริยะ’ ของเด็กได้
"คุณหมอเปิ้ล" พญ.วิมลมาศ พรหมสาขา ณ สกลนคร ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกุมารแพทย์และพฤติกรรม-สมองของเด็กทารกและเด็กเล็ก จากสถาบัน Heguru Thailand by Dr.Apple @ Zen เซ็นทรัลเวิลด์ กล่าวว่า เด็กๆ เป็นลูกของสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมเป็นอย่างไร จะหล่อหลอมสร้างเด็กให้เติบโตขึ้นมาแบบนั้น และหมอเชื่อว่าถ้าเราอยากให้สังคมในอนาคตดีขึ้น ต้องเริ่มที่การพัฒนาสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กตั้งแต่ตอนนี้
เพราะชั่ว ชีวิตของคนเรา สมองเป็นอวัยวะที่มีค่ามาก และมีเพียงชิ้นเดียว ประสบการณ์ในวัยเด็กเล็กมีผลต่อการพัฒนาสมองมากที่สุด ดังนั้นช่วงเวลา 3 ขวบปีแรกของชีวิต จึงเป็นโอกาสทองที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ผ่านไป ควรส่งเสริมการศึกษาแบบสมองด้านขวา ด้วยสมอง 2 ด้านมองผิวเผินไม่ได้มีความแตกต่างกัน แต่แท้จริงแล้วทำงานแตกต่างกันมาก สมองด้านขวาทำงานด้านอารมณ์ สร้างสรรค์ รับข้อมูลและประมวลผลเป็นภาพ โดยสามารถจัดการกับข้อมูลได้ครั้งละมากและแม่นยำ ในขณะที่สมองด้านซ้ายทำงานด้านภาษา ตรรกะและเหตุผล มีการประมวลข้อมูลอย่างค่อยเป็นค่อยไป ต้องอาศัยการเรียนซ้ำๆ หลาย ๆ ครั้งจึงจำได้ ซึ่งคุณหมอได้ให้คำแนะนำในการเลี้ยงลูกสู่ความเป็นอัจฉริยะ ‘เก่งและดี’ โดยมีทักษะ 7 อย่าง ปฏิบัติง่าย ๆ ดังนี้
1.การมีสมาธิ อย่าบังคับลูกให้ทำในสิ่งที่เขาไม่อยากทำ แต่เลือกให้ลูกทำในสิ่งที่เขาสนใจ จะทำให้ลูกมีสมาธิมากขึ้น
2.การสื่อสาร เวลาพูดกับลูกมีเสียงสูง-ต่ำตามสเต็ป หรือเน้นเสียง เสียงสูงขึ้น 2 สเต็ป พร้อมมีท่าทางประกอบทุกครั้ง และอย่าคาดหวังกับลูกในสิ่งที่เกินอายุ
3.การเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของคนอื่น โดยสามารถสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นได้ หัดให้ลูกรู้จักคิดถึงคนอื่น หรือรู้ว่าคนอื่นต้องการอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมากในการสร้างเด็กให้ดีได้ในยุคนี้
4.รักการเรียนรู้ พ่อแม่ไม่ควรบังคับลูก แต่พยายามชักจูงให้สนใจแล้วเขาจะชอบเรียนรู้ เมื่อเขาได้เรียนรู้จะทำให้ได้ประสบการณ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ของการจดจำ และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
5.กล้าท้าทาย เด็กเล็ก ๆ จะกลัวแพ้ ฉะนั้นต้องชื่นชมในความพยายามของเขา เช่น เก่งมากลูก ดีมากค่ะ
6.การคิดวิเคราะห์ มีความคิดสร้างสรรค์ ควรถามด้วยคำถามปลายเปิด เช่น เมื่อเด็กได้ดู-เห็นอะไร ถามเขาว่า ภาพนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
7.การเชือมโยงสิ่งต่าง ๆ โดยเด็กจะนำสิ่งที่รู้ไปใช้ เช่น ถอดชิ้นส่วนประกอบของเล่น แล้วสามารถประกอบได้เหมือนเดิม หรือการฝึกเล่นเกมจับคู่ แยกสี เกมหาความเหมือน ความต่าง เป็นต้น
ดังนั้น การจะสร้างสังคมที่ดีในวันหน้าเพื่อลูกหลาน ต้องเริ่มจากการสร้างเด็กที่มีคุณภาพในวันนี้ ที่พร้อมจะเติบโตไปเป้นคนเก่ง และคนดี ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ขาดไม่ได้ในองค์ประกอบของการสร้างเด็กที่มีคุณภาพ คือความรักความผูกพันของคุณพ่อคุณแม่และบุคคลรอบข้างของเด็ก ๆ นั่นเอง
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต