จาก โพสต์ทูเดย์
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ใบเสร็จอภิมหาโครงการตุๆ อย่างการรับจำนำข้าวปรากฏขึ้นแล้ว จาก นิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)
นิพนธ์ ระบุว่า รัฐบาลเริ่มรับจำนำข้าวตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2554-13 ก.ค. 2555 โดยมีข้าวที่รับจำนำปริมาณ 10.2 ล้านตัน
ตัวเลขการรับจำนำข้าวถูกนำมาคำนวณผลผลิต และความต้องการในด้านต่างๆ หรือ Demand Supply ตามหลักเศรษฐศาสตร์ ก็จะเห็นความผิดปกติชัด
เริ่มจากการส่งออกข้าวตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่แล้ว ถึงเดือน มิ.ย.ปีนี้ มีปริมาณรวม 5.1 ล้านตัน ขณะที่มีตัวเลขการบริโภคข้าวในประเทศ จำนวน 7.4 ล้านตัน และเมื่อรวมกันจะได้ 12.5 ล้านตัน
จากนั้นนำตัวเลขที่ได้ มารวมกันตัวเลขการรับจำนำข้าวจะได้ 22.7 ล้านตัน
แต่ทว่าผลผลิตข้าวนาปีและข้าวนาปรัง มีทั้งสิ้น 19.4 ล้านตันเท่านั้น
ทั้งหมดหมายความว่า มีข้าวผีงอกขึ้นเองได้ถึง 3.3 ล้านตัน
จากการตั้งข้อสังเกตคาดว่าข้าวผีจะมาจากเพื่อนบ้านประมาณ 1 ล้านตัน ส่วนอีก 2 ล้านตัน มีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น
นอกจากนั้น นิพนธ์ ยังแย้งถึงข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ที่ตั้งความหวังว่า การส่งออกข้าวปีนี้จะไม่มีปัญหาและไม่ได้รับผลกระทบจากการจำนำข้าวด้วย
กระทรวงพาณิชย์ แถลงว่าจะมีการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ประมาณ 3 ล้านตัน ให้อินโดนีเซีย 1.5 ล้านตัน และที่เหลือจะมีฟิลิปปินส์ จีน
แต่จากตัวเลขของกระทรวงเกษตรของสหรัฐ (United States Department of AgricultureUSDA) คาดว่า ในปีนี้อินโดนีเซียมีความต้องการนำเข้าข้าว 1.25 ล้านตัน ฟิลิปปินส์ 1.5 ล้านตัน จีน 1.5 ล้านตัน รวมแล้ว 4.25 ล้านตัน
ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ค. อินโดนีเซียนำเข้าข้าวไปแล้ว 1.15 ล้านตัน ฟิลิปปินส์ 1.5 ล้านตัน และจีน 1 ล้านตัน
เท่ากับว่าประเทศต่างๆ นำเข้าข้าวไปแล้ว 3.65 ล้านตัน และจะนำเข้าอีกเพียง 6 แสนตันเท่านั้น ไม่ใช่นำเข้าอีก 3 ล้านตันอย่างที่บอกออกมา
หากไทยต้องการจะขายข้าว ยังต้องไปแข่งกับอินเดียและเวียดนาม ซึ่งเชื่อว่าจะโดนตัดราคา
ใบเสร็จดังกล่าว ภาษามวยต้องบอกว่าเข้าลิ้นปี่ถึงกับทรุดกลางเวที จะแก้ตัว แก้ต่าง ก็ฟังไม่ขึ้น แม้กรรมการพยายามเข้าข้าง ถูลาก ถูกังไปอีก แต่เสียงคนดูโห่ดังลั่นเพราะเห็นความฉิบหายคาตา
ใครหน้าไหนจะรับผิดชอบกันได้หรือยัง!?!
สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน