จากประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 23 เมษายน 2560 เรือสำรวจแม่น้ำโขงจากบริษัท CCCC Second Habor Consultant จำกัด จากประเทศจีน ยังคงปฏิบัติการสำรวจแม่น้ำโขงในเขตน่านน้ำไทย-สปป.ลาว ด้าน จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดคณะสำรวจจากจีนได้นำเรือจาฟู่ 3 ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่ระวางน้ำหนักกว่า 450 ตันและมีแท่นขุดเจาะชั้นดินและหินใต้ท้องน้ำแยกไปสำรวจตามเส้นทางสายท่าเรือ แม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 1 ภายในเขตเทศบาล ต.เวียงเชียงแสน อ.เชียงแสน ไปทางสามเหลี่ยมทองคำชายแดนไทย-เมียนมา-สปป.ลาว โดยการดำเนินการเป็นไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่พบอุปสรรคใดๆ มากนักเพราะเป็นเขตที่แทบไม่มีเกาะแก่งที่เป็นหินหรืออุปสรรคต่อการเดินเรือ ยกเว้นหาดทรายกว้าง
โดยเฉพาะบริเวณระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำใกล้เกาะดอนซาว เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว กับบ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ห่างจากท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 1 ประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณดังกล่าวมักเป็นจุดที่พบอุปสรรคต่อการเดินเรือสินค้าเป็นประจำทุก ฤดูแล้งเพราะน้ำจะแห้งจนเหลือร่องน้ำแคบเพียงร่องเดียวเท่านั้น กระนั้นทางเจ้าหน้าที่ภายในเรือจาฟู่ 3 ยังคงนำแท่นเจาะทำการเจาะตัวอย่างชั้นดินและหินใต้น้ำขึ้นมาตรวจตัวอย่าง อย่างต่อเนื่อง โดยมีเรือฉีตง 9 ซึ่งเป็นเรือสำรวจร่องน้ำลอยลำอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
นอกจากนี้ยังมีการแยกเรือเฉินไท่ 198 เดินทางออกจากน่านน้ำด้าน อ.เชียงแสน มุ่งหน้าไปทาง อ.เชียงของ โดยได้แล่นไปทางบริเวณท่าพระซึ่งเป็นชายฝั่งเขตแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ห่างประมาณ 700 เมตรจากเกาะแก่งกลางแม่น้ำโขงที่เรียกว่า “คอนผีหลง” ติดบ้านเมืองกาญจน์ ต.ริมโขง อ.เชียงของ ซึ่งเป็น 1 ใน 11 เกาะแก่งขนาดใหญ่กลางแม่น้ำโขงซึ่งเป็นจุดที่บริษัทเดียวกันนี้มีโครงการจะ ปรับปรุงร่องแม่น้ำโขงในระยะแรกแต่ได้ยกเลิกไปเพราะขณะนั้นทางการไทยยังไม่ อนุมัติและยังมีเครือข่ายภาคประชาชนออกมาต่อต้านอย่างหนัก โดยในครั้งนี้เรือสำรวจจีนได้เข้าไปจอดรอดูท่าทีอยู่ติดกับฝั่ง สปป.ลาว โดยยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ
ด้านกลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านระบุว่าในปัจจุบันได้มีการจัดหมายกลุ่มชาว บ้านที่คัดค้านโครงการปรับปรุงร่องแม่น้ำโขงดังกล่าวแล้ว ซึ่งหากเรือสำรวจจีนทำการสำรวจบริเวณคอนผีหลงอย่างชัดเจนก็จะนำเรือออกไป แสดงสัญลักษณ์คัดค้าน โดยจะมีการใช้ป้ายข้อความ สัญลลักษณ์ ฯลฯ และไม่การกระทำรุนแรงใดๆ ทั้งนี้จะมุ่งแสดงสัญลักษณ์ดังกล่าวบริเวณแก่งคอนผีหลงและแก่งผาไดซึ่งมี เกาะแก่งจำนวนมากบริเวณจุดสิ้นสุดเขตแดนไทยด้าน อ.เวียงแก่น ก่อนที่แม่น้ำโขงจะไหลเข้าสู่ สปป.ลาว เป็นหลัก
ด้าน น.ส.ผกายมาศ เวียร์ร่า รองประธานหอการค้า จ.เชีงราย กล่าวว่าในปัจจุบันการสำรวจของเรือจีนยังไม่ชัดเจนเพราะแม่น้ำโขงมีความ ผันผวนของระดับน้ำตลอดเพราะมีการระบายน้ำจากขื่อนจิ่งหงที่เขตปกครองตนเอง สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ของจีนมากและน้อยแตกต่างกันไปล่าสุดศูนย์ควบคุมแม่น้ำโขงของจีนแจ้งว่ามีน้ำ ไหลเข้าเขื่อน 2,168 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีและปล่อยน้ำออกจากเขื่อน 2,496 ลูกบาศก์เมตรต่อวนาที กระนั้นตนได้หารือกับคณะวิศวกรและผู้บริหารระดับสูงของบริษัท CCCC Second Habor Consultant จำกัด แล้วทราบว่าการดำเนินการของบริษัทดังกล่าวมุ่งแค่การสำรวจเท่านั้นโดยไม่ได้ ดำเนินการใดๆ กับแม่น้ำโขง แต่ที่ผ่านมาอาจไม่มีการประชาสัมพันธ์มากทำให้ข้อมูลไม่เข้าถึงประชาชนเต็ม ที่
น.ส.ผกายมาศ กล่าวอีกว่าจากการหารือยังได้ทราบการสำรวจครั้งนี้จะทำให้ได้ข้อมูลที่เป็น ประโยชน์ต่อทุกฝ่าย เช่น ระดับน้ำ ลักษณะดินและหินที่อยู่พื้นและใต้ท้องน้ำ ความตื้นเขิน ฯลฯ ซึ่งจากประสบการณ์การสำรวจของจีนย่อมทำให้ได้ข้อมูลที่ดี ขณะที่การเดินเรือที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าการเดินเรือไม่มีความชัดเจนเรื่อง ร่องน้ำเพราะเกิดตะกอนใต้น้ำมีมหาศาลเนื่องจากมีการสะสมมานาน จากนั้นเมื่อสำรวจแล้วก็จะได้นำข้อมูลมาพิจารณาร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งก่อนด้วย
“น่าจะเป็นข้อมูลไปในทางที่ดีเพราะเมื่อเราได้ข้อมูลก็ค่อยเอามาหารือ พิจารณา ลักษณะการปรับปรุงอาจจะเป็นไปในทางการขุดลอกเพื่อเปิดร่องน้ำให้กว้างขึ้น โดยไม่ใช่มุ่งระเบิดอย่างเดียว หลังจากที่ในปัจจุบันการเดินเรือต่างต้องใช้ความระมัดระวัง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีการประชาสัมพันธ์น้อย ทำให้เขามีการประสากับกงสุลใหญ่ประจำ จ.เชียงใหม่ ของจีนให้ช่วยดังกล่าว” น.ส.ผกายมาศ กล่าวอีกว่าสำหรบตนแล้วเห็นว่าหากเราได้ข้อมูลเรื่องแม่น้ำโขงดังกล่าวมาก็ จะได้ประโยชน์โดยเราจะได้ข้อมูลโดยไม่ต้องเสียงบประมาณสำรวจเองและหากมีการ ประชาสัมพันธ์ให้มากทางการจีนก็จะประโยชน์เพราะจะได้ไม่ต้องถูกต่อต้านด้วย
ที่มา มติชนออนไลน์
eosgear,ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต