จากประชาชาติธุรกิจ
นักวิชการเผยพะยูนทะเลตรังเพิ่มในรอบ 10 ปี แต่พื้นที่อยู่อาศัยลดลง เหตุเรือท่องเที่ยวหนาแน่น ต้องอพยพไปอยู่ที่อื่น ชงผู้ว่าฯกำหนดลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับท้องถิ่น ท้องที่ และชุมชน เพื่อร่วมกันทำงานต่อไป
นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน เปิดเผยว่า ผลการบินสำรวจประชากรพะยูนในทะเลตรังในปีนี้ พบว่าแนวโน้มการเพิ่มจำนวนมากขึ้นที่สุดในรอบ 10 ปี แต่กลับพบว่าพื้นที่สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของพะยูนเริ่มน้อยลง เช่น บริเวณเกาะมุกด์ และในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม พบพะยูนน้อยลงอย่างมาก แต่ไปกระจุกตัวอยู่บริเวณแหลมจุโหย – เกาะลิบง ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบงเป็นหลัก
นายก้องเกียรติ เปิดเผยต่อไปว่า สาเหตุสำคัญเชื่อว่าเกิดจากที่บริเวณเกาะมุกด์ และอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมมีการสัญจรทางเรือทั้งเรือประมง และเรือท่องเที่ยวที่หนาแน่น ทำให้ไปรบกวนแหล่งอาศัยและแหล่งหากินของพะยูน ทั้งนี้ ปัญหาภัยคุกคามที่สำคัญของพะยูน ยังคงเป็น เครื่องมือประมง และพื้นที่แหล่งอาศัยถูกคุกคามจากการสัญจรทางน้ำ แนวทางในการอนุรักษ์ให้พะยูนในทะเลตรังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ คือ ไม่ใช้เครื่องมือประมงที่เป็นอันตรายกับพะยูน ลดการใช้ประโยชน์ในพื้นที่อาศัยของพะยูน โดยชุมชนจะต้องร่วมกันดูแลและมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
"สำหรับผลการบินสำรวจและแนวทางในการร่วมกันอนุรักษ์ต่อไปนั้น ทางนักวิชาการ ได้นำเสนอรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการพร้อมกำหนดลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับท้องถิ่น ท้องที่ และชุมชน เพื่อร่วมกันทำงานต่อไป"นายก้องเกียรติ กล่าว
eosgear,ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
