จากประชาชาติธุรกิจ
ธ.ก.ส.ส่งทีมลงพื้นที่แก้หนี้เสียเกษตรกรรายย่อย 7 แสนราย มูลหนี้ราว 5 หมื่นล้านบาท หวังกดเอ็นพีแอลต่ำ 3% ก่อนปิดปีบัญชี 2559/2560 เผยล่าสุดธนาคารมีเอ็นพีแอลพุ่ง 5% งัดมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ แทง "ตัดหนี้สูญ" ช่วยลูกหนี้ตาย-ทุพพลภาพไร้ทายาท
นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีบัญชี 2559/2560 (ม.ค.-มี.ค. 2560) ธนาคารจะเน้นการแก้ปัญหาหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้ลดลงเหลือประมาณ 3% ของสินเชื่อรวม โดยในช่วง 3 เดือนจากนี้ไป ได้ให้เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.ในแต่ละพื้นที่ลงไปเจรจาแนวทางแก้ไขเอ็นพีแอลกับลูกหนี้เกษตรกร 
ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือน ต.ค. 2559 ธ.ก.ส.มียอดเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.59%
"ช่วงก่อนปลายปี 2559 ที่ผ่านมา เรามีเอ็นพีแอลกว่า 5% ของสินเชื่อรวม เนื่องจากลูกหนี้เกษตรกรได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง และราคาผลผลิตของสินค้าเกษตรบางตัวที่ยังชะลอตัว เอ็นพีแอลกว่า 5% ถือว่ายังต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ 6% และไม่น่าจะมากไปกว่านี้แล้ว เครื่องมือแก้หนี้เอ็นพีแอลผ่าน ธ.ก.ส. น่าจะลดเอ็นพีแอลลงได้ตามเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยที่มีหนี้ไม่เกิน 3 แสนบาทต่อราย ตามที่ ครม. (คณะรัฐมนตรี) มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2559 จะมีจำนวนทั้งสิ้น 6.75 แสนราย มูลหนี้ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท" นายสมศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ มาตรการของ ธ.ก.ส. ได้แก่ "โครงการปลดเปลื้องหนี้สินให้เกษตรกรรายย่อยที่มีเหตุผิดปกติ" เช่น เสียชีวิต พิการ ทุพพลภาพ เจ็บป่วยเรื้อรัง มีปัญหาสุขภาพจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ เป็นต้น
มีหนี้ค้างชำระหรือเป็นหนี้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ซึ่งหากเป็นกรณีไม่มีหลักประกันจำนองและไม่มีทายาทรับช่วงการผลิต ทาง ธ.ก.ส.จะสอบทานสถานะของเกษตรกร และพิจารณาตัดหนี้สูญให้ และกรณีมีหลักประกันจำนองและมีทายาทรับช่วงการผลิต ธ.ก.ส.จะปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากต้นเงิน 50% ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยพักชำระต้นเงินเป็นระยะเวลา 2 ปี คิดดอกเบี้ยที่ MRR และต้นเงินที่เหลือพร้อมทั้งดอกเบี้ยค้างชำระก่อนเข้าโครงการให้พักไว้ เมื่อทายาทชำระหนี้ต้นเงินตามแผนปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว จึงจะลดดอกเบี้ยที่พักไว้ทั้งจำนวน ส่วนต้นเงินที่พักไว้อีก 50% จะพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามศักยภาพในภายหลัง
ส่วนอีกโครงการคือ "โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และลดภาระหนี้สินให้เกษตรกร ที่มีหนี้เป็นภาระหนัก มีหนี้ค้างชำระหรือเป็นหนี้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้" ซึ่งจะดำเนินการใน 2 กรณี ได้แก่ 1) เกษตรกรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และเป็นลูกค้า ธ.ก.ส.ไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีทายาทเป็นลูกค้าแทน ทาง ธ.ก.ส.จะรับทายาทเข้าเป็นลูกค้าแทนเกษตรกรรายเดิม
และจะปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้แก่ทายาทตามศักยภาพ จากต้นเงิน 50% ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยจะพักชำระต้นเงินเป็นระยะเวลา 2 ปี คิดดอกเบี้ยที่ MRR ส่วนต้นเงินที่เหลือพร้อมทั้งดอกเบี้ยค้างชำระก่อนเข้าโครงการให้พักไว้ เมื่อทายาทชำระหนี้ต้นเงินตามแผนปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว จึงจะลดดอกเบี้ยที่พักไว้จำนวน 80% ส่วนต้นเงินที่พักไว้อีก 50% จะพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามศักยภาพในภายหลัง และ 2) เกษตรกรที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส.ไม่น้อยกว่า 5 ปี ทาง ธ.ก.ส.จะปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากต้นเงิน 50% ภายในระยะเวลา 5 ปี และพักชำระต้นเงินเป็นระยะเวลา 2 ปี คิดดอกเบี้ยที่ MRR ส่วนต้นเงินที่เหลือพร้อมทั้งดอกเบี้ยค้างชำระก่อนเข้าโครงการให้พักไว้ เมื่อชำระหนี้ต้นเงินตามแผนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ธ.ก.ส.จะลดดอกเบี้ยที่พักไว้จำนวน 50% ส่วนต้นเงินที่พักไว้อีก 50% จะพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามศักยภาพในภายหลัง
อี.โอ.เอส เกียร์,ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต,#มีดดามัสกัส,#เหล็กดามัสกัส
