จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
ลำปาง - ยอมรับกันทุกหน่วย ทั้งแขวงทางหลวงชนบท-ป่าไม้-ตชด. ร่วมลงนามเอกสารสอบพิกัดที่ตั้งถนน ลป.4041 รุกป่าสงวนแห่งชาติแม่เรียง ลำปาง-ป่าถาวร โดยไม่ขออนุญาต รวมกว่า 40 ไร่ ก่อนเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะหอบเอกสารขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดีทันที
วันนี้ (5 ก.ย.) นายวรวิทย์ ขัตติโย ผอ.กลุ่มวิชาการ แขวงทางหลวงชนบทลำปาง, นายอนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง หน.สายจรวจฯ สายที่ 1 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง), จ.ส.ต.พงศพัส ใจมวน ผบ.หมู่ กก.ตชด.33, นายษเอมร์ สันป่าแก้ว เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.5 (แม่กึ๊ด) และนายทศพร มากวิลา ช่างสำรวจ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) ได้ร่วมลงนามในเอกสารการสำรวจตรวจสอบพิกัดที่ตั้งของถนนทางหลวชนบท หมายเลข ลป.4041 ถนนสายแม่กึ๊ด-ปงแพ่ง ม.1 ตำบลทุ่งงาม อำเภอเสริมขวา จังหวัดลำปาง ที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ลป.5 (แม่กึ๊ด)
หลังมีการตรวจสอบร่วมกันจนได้ผลสรุป คือ ถนนเส้นดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่เรียง อยู่ในเขตชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 5 ระยะทาง 8.751 เมตร ความกว้าง 8 เมตร รวม 43-2-84 ไร่ แบ่งเป็นอยู่ในเขตพื้นที่ป่างสงวนแห่งชาติแม่เรียง ระยะทาง 4,941 เมตร รวมเนื้อที่ 24-2-82ไร่ อยู่ในเขตป่าถาวร ระยะทาง 3,810 เมตร รวมเนื้อที่ 19-0-02 ไร่
หลังจากมีการรับรองพื้นที่เรียบร้อยซึ่งก็พบว่ามีการบุกบุกพื้นที่ ป่าสงวนจริง นายษเอมร์ สันป่าแก้ว เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.5 (แม่กึ๊ด) พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายร่วมกันลงนามในเอกสาร และเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีต่อกรมทางหลวงชนบทกับ พ.ต.ท.ทระนง คำศรีวัง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เสริมงาม ทันทีในช่วงเย็นที่ผ่านมา
โดยกล่าวโทษตาม พ.ร.บ.ป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ประกอบ72 ตรี ฐานร่วมกันก่อสร้าง หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเอง หรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 มาตรา14 ประกอบ มาตรา 31 ฐาน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ร่วมกันยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 มาตรา108 ทวิ ฐาน ร่วมกันเข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้าง หรือเผาป่า ทำด้วยประการใดๆให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในดิน โดยมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 3 ล้านบาท พร้อมนำเจ้าหน้าที่ตำรวจลงตรวจสอบพื้นที่ถนนเพื่อชี้จุดเกิดเหตุประกอบใน สำนวนอีกครั้ง
นายฌเอมร์ สันป่าแก้ว หัวหน้าหน่วยป้องกันฯ ซึ่งเพิ่งย้ายมาประจำการได้เพียง 3 เดือนเศษ ระบุว่า หลังจากที่มีการร้องว่าถนนสายดังกล่าวตัดผ่านป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้มีการตรวจสอบร่วมกัน และก็พบว่าถนนเส้นดังกล่าวตัดผ่านป่าจริง โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อสร้าง เบื้องต้นตามหลักฐานที่ปรากฏจึงได้แจ้งความต่อกรมทางหลวงชนบทก่อนเป็นอันดับ แรก หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
อี.โอ.เอส เกียร์,ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต,#มีดดามัสกัส,#เหล็กดามัสกัส