จากประชาชาติธุรกิจ
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษา คดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ อายุ 72 ปี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และนายวิทยา เทียนทอง อายุ 75 ปี อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอดีต ส.ส.สระแก้ว พรรคไทยรักไทย เป็นจำเลยที่ 1-2 ฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ.2542 มาตรา 17
คำฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2544 ถึงวันที่ 20 กันยายน 2545 พวกจำเลยร่วมกันทุจริตจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยอัยการสูงสุดยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558 ว่านายชูชีพ จำเลยที่ 1 เป็น รมว.เกษตรฯ และนายวิทยา จำเลยที่ 2 เป็นเลขานุการ รมว.เกษตรฯ ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีเสนอให้จัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ของกรมส่งเสริมการเกษตร โดยจำเลยทั้งสองมีอำนาจหน้าที่ในการเสนอโครงการจัดซื้อปุ๋ยได้กระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 และกระทำการส่อไปในทางทุจริต ในการร่วมกันกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้าประมูล เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย (ชสท.) เป็นผู้ประมูลได้เพียงรายเดียว
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และได้ประกันตัวในชั้นไต่สวน
ทั้งนี้ คณะองค์คณะผู้พิพากษาประชุมหารือกันนานกว่า 5 ชั่วโมง โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1, 2 เร่งรีบในการพิจารณารับราคา ที่มีการเสนอในการประกวดราคาจัดซื้อปุ๋ย และไม่ดำเนินการตรวจสอบข้อพิรุธในการจัดซื้อที่น่าจะทราบมาตั้งแต่ต้น หลังจากมีหนังสือปลัดกระทรวงเกษตรฯ และคณะกรรมมาธิการตรวจสอบการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของ ส.ส. แต่จำเลยกลับประวิงเวลา กระทั่งกรมส่งเสริมการเกษตรได้ลงนามทำสัญญากับชุมนุมเกษตรกรแห่งประเทศไทย จัดซื้อปุ๋ยมูลอินทรีย์ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
องค์คณะจึงมีมติด้วยเสียงข้างมาก พิพากษาว่านายชูชีพ จำเลยที่ 1 กระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2542 (ฮั้วประมูล) มาตรา 10, 12 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ส่วนนายวิทยา จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานสนับสนุนนายชูชีพกระทำความผิด จึงให้จำคุกคนละ 6 ปี ฐานทำผิด มาตรา 12 พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ซึ่งเป็นบทหนักสุด
ต่อมาเวลา 17.16 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เตรียมควบคุมตัวทั้งสองคนไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคดีดังกล่าว ป.ป.ช.มีมติเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2555 ชี้มูลความผิดนักการเมือง 2 ราย ร่วมกับข้าราชการประจำและเอกชนหลายราย ทุจริตฮั้วประมูลปุ๋ยอินทรีย์ปลอม 1.31 แสนตัน วงเงิน 367 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ ปี 2545 ของกรมส่งเสริมการเกษตร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10, 12 และ 13 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83
ซ้าย- นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ ขวา-นายวิทยา เทียนทอง
ที่มา : มติชนออนไลน์
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต