จาก โพสต์ทูเดย์
โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์
องค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (เอ็นโอเอเอ) เปิดเผยรายงานสภาพภูมิอากาศฉบับล่าสุดของปี 2014 ว่า สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปได้ทำลายสถิติในหลายด้าน เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้น
เอ็นโอเอเอ เปิดเผยว่า อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกของปี 2014 ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มสูงที่สุดในรอบ 135 ปี โดยครึ่งหนึ่งทางตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่จุดบนโลกเท่านั้นที่ยังมีอุณหภูมิที่หนาวเย็นอยู่
นอกจากนี้ องค์กรของสหรัฐยังระบุอีกด้วยว่า จากอุณหภูมิเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้เกิดสภาพอากาศสุดโต่ง โดยอุณหภูมิในตอนกลางวันเพิ่มสูงขึ้นไปแตะระดับอุณหภูมิสูงสุด 90% ของอุณหภูมิทั้งหมดที่เกิดขึ้นทั่วโลก ในขณะที่อุณหภูมิในตอนกลางคืนเองก็หนาวเย็นแตะระดับอุณหภูมิต่ำสุด 10% ของอุณหภูมิทั้งหมดที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ประการที่สอง ระดับน้ำทะเลเฉลี่ยทั่วโลกเพิ่มสูงทำลายสถิติ และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3.2 มิลลิเมตร/ปี ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ 8 ใน 10 ของเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งอยู่ใกล้ชายฝั่งมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเผชิญวิกฤตน้ำท่วมและน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง
ในขณะเดียวกัน ธารน้ำแข็งทั่วโลกที่ลดลงอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 31 ก็เป็นตัวบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอันเกิดจากภาวะโลกร้อนเช่นกัน
นอกจากนี้ ก๊าซเรือนกระจกที่กระจายอยู่เต็มชั้นบรรยากาศยังคงเพิ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2013 ปริมาณก๊าซดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 400 พีพีเอ็ม ซึ่งเป็นค่าความเข้มข้น 1 หน่วยต่อล้านหน่วยเป็นครั้งแรก หลังจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 40%
ประการสุดท้าย มหาสมุทรกักเก็บความร้อนไว้เป็นจำนวนมาก และปล่อยความร้อนออกมาในปริมาณมากเช่นกัน ส่งผลให้อุณหภูมิในมหาสมุทรผันผวน และก็ก่อให้เกิดสภาวะอากาศแปรปรวน เช่น ปรากฏการณ์เอลนินโญ ในขณะเดียวกันหากมหาสมุทรมีความร้อนมากกว่าผิวโลก ก็จะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ธารน้ำแข็งละลาย และแนวปะการังล้มตายพร้อมกับสัตว์ทะเลอื่นๆ
ล่าสุดรัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 4 คน และอพยพอีกราว 3,000 คน จากเหตุการณ์น้ำท่วมและลมมรสุมที่ไม่ได้มีการคาดการณ์มาก่อนทางตอนเหนือของประเทศ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยกรมอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์เตือนให้ระวังปัญหาดินถล่มที่อาจตามมา
เฮร์มินิโอ โคโลมา โฆษกประจำตัวของประธานาธิบดี เบนิญโญ อาคิโน แห่งฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางองค์กรต่างๆ ได้เตรียมการช่วยเหลือสำหรับพื้นที่ประสบภัยไว้เรียบร้อยแล้ว
ก่อนหน้านี้ คลื่นความร้อนที่อินเดียเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 2,200 คน โดยอุณหภูมิในบางพื้นที่ขึ้นไปสูงถึง 45-47 องศาเซลเซียส ในขณะที่คลื่นความร้อนในปากีสถานเองก็ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,250 คนเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปรากฏการณ์เอลนินโญได้เริ่มต้นสร้างผลกระทบต่อการทำการเกษตรในเอเชีย โดยมีฝนตกน้อยลงในออสเตรเลีย รวมไปถึงพื้นที่ทำการเกษตรในเอเชีย ซึ่งทางตอนกลางของประเทศไทยนั้นกำลังเผชิญความแห้งแล้งที่สุดในรอบมากกว่า 20 ปี
ด้าน โมฮัมเหม็ด อีมีร์ มาวานิ อับดุลลาห์ ประธานบริหารของเฟลดา โกลบอล เวนเจอร์ โฮลดิ้ง คาดว่าจะส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 2,500 ริงกิต/ตัน จากราคาปัจจุบันที่ราว 2,190 ริงกิต/ตัน โดยนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ราคาน้ำมันปาล์มปรับตัวลดลงไปแล้ว 3.4%
ไร่รักษ์ไม้,Eosgear,มูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,victorinox,แปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit,ราคา,อร่อย