จากประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 11 พฤษภาคม นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เป็นประธานการประชุมลับ แผนปฏิบัติการเพื่อบังคับใช้กฎหมายต่อพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุก เพื่อปลูกยางพารา ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศ โดยมีผู้อำนวยการสำนักจัดการป่าไม้ทั่วประเทศทั้ง 23 สำนัก ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและรักษาป่า ผู้อำนวยการส่วนจัดการที่ดิน ทั้งหมดประมาณ 100 คน ประชุมร่วมกับตัวแทนจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอรมน.)เข้าร่วมโดยที่ประชุม ได้มีการ กำหนดพื้นที่ ที่จะเข้าปฏิบัติการ ซักซ้อม ทำความเข้าใจ กับการขั้นตอน วิธีการการเข้าปฏิบัติการในพื้นที่เป้าหมายทั่วประเทศ
นายธีรภัทร กล่าวว่า กรมป่าไม้พบว่าพื้นที่ปลูกยางพาราในป่าสงวนแห่งชาติระหว่างปี 2552-2557 มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเฉลี่ยต่อปีประมาณ 216,068 ไร่ซึ่งในปี 2557 พบว่ามีการปลูกยางพาราทั่วประเทศมากถึง 4.4 ล้านไร่ พบมากที่สุดในภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ตามลำดับ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ และระบบนิเวศโดยเฉพาะ การบุกรุกในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เอ และ 1 บี ซึ่งถือเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่สมบูรณ์
“การประชุมในวันนี้ จะมีการชี้ชัดทำความเข้าใจถึงพื้นที่ ที่มีปัญหาจริงๆที่เกิดจากการบุกรุกของกลุ่มนายทุน และที่ใช้ชาวบ้านเป็นนอมินี ยอมรับว่า ที่ผ่านมาหลายพื้นที่ยังไม่ค่อยจะเข้าใจวิธีการปฏิบัติการมากนัก ทั้งการดำเนินคดี การประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมไปถึงการประสานงานทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ เพราะมีข่าวเกิดขึ้นบ่อยว่า เจ้าหน้าที่เข้าไปขับไล่ตรวจยึดชาวบ้านรายย่อย ซึ่งหลังจากนี้ไปยืนยันว่า ตามนโยบายรัฐบาลจะไม่มีการเข้าจับกุมหรือตรวจยึดชาวบ้านที่ทำมาหากินในพื้นที่ป่ารายเล็กรายน้อย ที่เข้าข่ายมติคณะรัฐมนตรี 30 มิถุนายน 2541 และชาวบ้านที่อยู่มาก่อนประกาศพื้นที่ป่าสงวนเด็ดขาด จะจับเฉพาะที่บุกรุกรายใหม่เท่านั้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมได้มีการกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่จะเข้าดำเนินการเพื่อยึดเอาสวนยางพารา 4.4 ล้านไร่ฃกลับคืนมาจากกลุ่มนายทุน โดยเป้าหมายลำดับที่ 1 มีทั้งหมด 12 จังหวัด คือ เชียงราย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ บึงกาฬ เลย สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำพู อุดรธานี อุบลราชธานี พังงา และพัทลุง 200 ป่า เนื้อที่ทั้งหมด 250,000 ไร่ เป้าหมายลำดับที่ 2 มี 12 จังหวัด คือ จันทบุรี ระยอง กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช พัทลุง ยะลา ระนอง สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี จำนวน 292 ป่า เนื้อที่ 150,000 ไร่
เป้าหมายลำดับที่ 3 จำนวน 41 จังหวัด คือ นราธิวาส ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี ปัตตานี ฉะเชิงเทรา อำนาจเจริญ พะเยา ขอนแก่น ชลบุรี ชัยภูมิ นครพนม ศรีสะเกษ กาฬสินธุ์ ภูเก็ต ลำปาง ตราด บุรีรัมย์ กำแพงเพชร ยโสธร สุโขทัย สระแก้ว เพชรบุรี มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ตาก เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ อุทัยธานี ลำพูน สุพรรณบุรี แพร่ สุรินทร์ นครราชสีมา ปราจีนบุรี ราชบุรี แม่ฮ่องสอน นครสวรรค์ มหาสารคาม ลพบุรี สระบุรี และชัยนาท จำนวน 505 ป่า เนื้อที่ 50,000 ไร่
ทั้งนี้ กรมป่าไม้มีเป้าหมายที่จะทวงคืนผืนป่า 4.4 แสนไร่คืนให้ได้ทั้งหมดภายในปี 2558 โดยภายในเดือนพฤษภาคม จะเอาคืนให้ได้ 40,000 ไร่ มิถุนายน 55,000 ไร่ กรกฎาคม 55,000 ไร่ สิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม อีกเดือนละ 50,000 ไร่
อธิบดีกรมป่าไม้ ให้สัมภาษณ์เรื่องการดำเนินการกับคีรีมายา รีสอร์ต โรงแรมที่พักขนาดใหญ่ กับสนามแข่งรถโบนันซา ว่า เวลานี้เรื่องทั้งหมดอยู่กับพนักงานสอบสวนแล้ว กรมป่าไม้ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสนับสนุนการรังวัดพื้นที่ ที่ต้องสงสัยว่าอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่ สำหรับคีรีมายา นั้น เบื้องต้นไม่พบว่ามีพื้นที่ที่อยู่ในป่าสงวนแห่งชาติเลย อย่างไรก็ตาม ต้องไปตรวจสอบจากเอกสารสิทธิที่ออกจากกรมที่ดินมาก่อน ว่าที่ ที่กรมที่ดินออกเอกสารสิทธินั้นมีประวัติอย่างไร
ที่มา มติชนออนไลน์
ไร่รักษ์ไม้,Eosgear,มูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,victorinox,แปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit,ราคา,อร่อย
