จากประชาชาติธุรกิจ
ความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกวันนี้หันมาให้ความสำคัญกับการเดินทางมุ่งสร้างประสบการณ์ (Experiential Travel) และต้องเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่นด้วย (Authenticity)
นี่คือ 2 สิ่งที่ทำให้เกิดแนวโน้มการท่องเที่ยวและกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดใหม่ ๆ ไปทั่วทุกมุมโลก ตอบโจทย์นิยามท่องเที่ยวเฉพาะบุคคลมากขึ้น
"ประชาชาติธุรกิจ" รวบรวม 9 เทรนด์ท่องเที่ยวโลกที่กำลังมาแรงในปี 2015 ไว้ดังนี้
1.โฮสเทลเก๋ไก๋ (POSHTEL) ในตลาดอังกฤษ ด้วยระบบเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวนักท่องเที่ยวต้องการมองหา "ความหรูหรา" ของที่พัก "ราคาย่อมเยา" แต่มี "สไตล์" ซึ่งให้ประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากโรงแรมทั่วไป จึงเกิดคำว่า "POSHTEL" ซึ่งย่อมาจาก POSH HOSTEL (โฮสเทลแบบเก๋ไก๋) เพื่อรองรับตลาดคนรุ่นใหม่ ทั้งกลุ่มครอบครัวและนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางด้วยตัวเอง
2.เครือข่ายการทำตลาดโดยตรง (Peer-to-Peer) ที่ยุโรป คำว่า "เพียร์-ทู-เพียร์" กำลังมาแรงมาก ๆ หนุนให้เว็บไซต์ Airbnb ซึ่งรับจองห้องพักออนไลน์ คล้ายเว็บไซต์ชื่อดัง Agoda.com และ Booking.com ประสบความสำเร็จจากการเป็นสื่อกลางของการแชร์ที่พักกันไปทั่วโลก
พร้อมขยายสู่การรับประทานอาหารที่บ้านคนท้องถิ่น โดยจับคู่นักท่องเที่ยวกับคนท้องถิ่นที่พร้อมทำอาหารให้นักท่องเที่ยวรับประทานในช่วงบ่ายหรือเย็น
กระแสการทำตลาดรูปแบบนี้ค่อย ๆ เป็นที่นิยมมากขึ้น ทั้งยังช่วยกระจายรายได้ถึงมือชาวบ้านผู้เป็นเจ้าของสินค้าอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เว็บไซต์ที่ประกาศตัวเป็นสื่อกลางระหว่างนักท่องเที่ยวกับคนในท้องถิ่นขณะนี้มี Eatwith.com และ Bookalokal.com
3.การท่องเที่ยวชุมชน (Going Local) การทำกิจกรรมและใช้ชีวิตในรูปแบบเดียวกับคนท้องถิ่น เป็นการสร้างการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้วิถีท้องถิ่น และสร้างประสบการณ์ที่น่าจะจดจำ
เหมือนกับตัวอย่างแคมเปญการตลาดของ "การท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์" ที่นำเสนอรูปแบบการหลับนอนในบ้านพักแบบสวิตฯ หรือโรงแรมท้องถิ่นที่ไม่ใช่เชนรับบริหารโรงแรม การเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถสาธารณะ กิจกรรมในท้องถิ่นเน้นการเดินป่าหรือขี่จักรยาน สนุกสนานกับเทศกาล และกินดื่มแบบคนท้องถิ่น
4.นักปั่นหรรษา (Cycling Tourism) เทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มาแรงแซงกอล์ฟในขณะนี้ เห็นจะเป็นการท่องเที่ยวด้วยจักรยาน ซึ่งถูกจริตกับผู้รักสุขภาพ ผู้สูงวัย และผู้ที่ต้องการประสบการณ์แตกต่างทำให้เกิดกลุ่ม MAMILs (Middle-Aged Men in Lycra) ขึ้นแถมในหลาย ๆ ประเทศได้ออกแบบผังเมืองและภูมิทัศน์รองรับการเดินทางโดยจักรยาน แต่ถ้าเป็นในไทย บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ดูจะเป็นพื้นที่เหมาะสุดแล้ว ส่วนในต่างจังหวัด การขี่จักรยานชมความงดงามในอุทยานประวัติศาสตร์เริ่มได้รับการโปรโมตมากขึ้นแล้ว
5.จองกันชนิดนาทีสุดท้าย (Last Minute Booking) พฤติกรรมการจองสินค้าท่องเที่ยว ทั้งห้องพักและตั๋วบินมีหลากรูปแบบ ไม่วางแผนจองข้ามปีเพื่อจ่ายในราคาถูก ก็วางแผนกระชั้นมาก ๆ เพราะเพิ่งจัดสรรเวลาลงตัว แถมมีห้องพักหรือเที่ยวบินให้บริการเป็นจำนวนมาก ไม่เห็นต้องไปจองแย่งกับใครเลย หรือขอจับตาสถานการณ์ในประเทศนั้น ๆ สักหน่อยว่าปลอดภัยหรือไม่
ทั้งหมดนี้มีส่วนสำคัญให้พฤติกรรมการจองสินค้าท่องเที่ยวในนาทีสุดท้าย (ลาสต์มินิต) เกิดขึ้น จนมีเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นที่จัดรวบรวมดีลห้องพักและตั๋วบินแบบลาสต์มินิตมานำเสนอขายราคาล่อตาล่อใจแก่นักท่องเที่ยว
6.เทคโนโลยีตอบโจทย์ความสะดวก โดยเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการท่องเที่ยวมากขึ้น ๆ เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบาย และช่วยให้ข้อมูลข่าวสารเบื้องต้นก่อนออกไปเที่ยวจริง พร้อมเชื่อมต่อระหว่างผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวติดต่อกันได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
7.เทคโนโลยีเพิ่มดีกรีความสนุก นอกเหนือจากความสะดวกแล้ว เทคโนโลยีจำเป็นต้องตอบโจทย์ความสนุกด้วย ก่อนหน้านี้สายการบินเอมิเรตส์เลือกใช้แว่นตาเสมือนจริง 3 มิติของ Occurus Rift เพื่อนำเสนอภาพภายในเครื่องบินแอร์บัส เอ 380 ว่าได้ปรับปรุงส่วนของสปา เลานจ์และที่นั่งเฟิรสต์คลาสที่หรูหรากว่าเดิม
ด้านสายการบินบริติช แอร์เวย์ มีแผนโปรโมตเส้นทางบินพาคนยุโรปไปเที่ยวอเมริกาด้วยการเปิดบูทเล็ก ๆ ริมถนนให้ผู้คนในเมืองต่าง ๆ อาทิ ปารีส มิลาน แฟรงก์เฟิร์ต ได้ลองสวมแว่นตาเสมือนจริง 3 มิติ เพื่อสัมผัสบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในอเมริกาก่อนที่ตัวเองจะบินไป ทำให้ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เสมือนได้ไปอยู่ในสถานที่นั้นจริง ๆเช่น การขี่วัวกระทิงในสวนสนุกเทกซัส และเล่นสเก็ตในลานน้ำแข็งที่นิวยอร์ก
8.แรงบันดาลใจจากโลกออนไลน์ ตามวัฏจักรท่องเที่ยว 5 ขั้นตอน แน่นอนว่ามาจากความฝันหรือแรงบันดาลใจ ก้าวถัดไปคือเริ่มวางแผน การจองสินค้าท่องเที่ยว แล้วออกเดินทางเพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ และเก็บความประทับใจจากการท่องเที่ยวนั้นเอาไว้แล้วแบ่งปันให้ผู้คน ดังนั้น ธุรกิจท่องเที่ยวจำเป็นอย่างยิ่งในการจับจุดพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในแต่ละขั้นตอนให้ได้ว่านักท่องเที่ยวต้องการเห็นอะไร เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้โดนใจนักท่องเที่ยวมากที่สุด
และ 9.ผู้บริโภคเสพรีวิว จากสถิติที่น่าสนใจของผู้ใช้งานเว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดัง "ทริปแอดไวเซอร์" พบว่ากว่า 53% ของผู้ใช้งานเว็บไซต์จากทั่วโลกจะไม่จองสินค้าท่องเที่ยวอะไรทั้งนั้น ถ้าไม่ได้อ่านรีวิวก่อน
นอกจากนี้ 83% ของผู้ใช้งานเว็บไซต์ระบุว่าการอ่านรีวิวช่วยเพิ่มความมั่นใจก่อนเดินทาง อีก 73% บอกว่าพวกรูปภาพสินค้าท่องเที่ยวเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ และ 80% สนใจอ่านรีวิวล่าสุด และนิยมอ่าน 6-12 รีวิวก่อนตัดสินใจจองสินค้า
ทั้งนี้ 98% ของผู้ใช้งานทั้งหมดเชื่อว่ารีวิวในทริปแอดไวเซอร์เป็นสิ่งที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์จริง
พฤติกรรมผู้บริโภคทั้ง 9 เทรนด์นี้ ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวทั้งหลายห้ามมองข้ามเป็นอันขาด เพราะหากคุณพลาดอาจจะตกขบวนและเสียโอกาสทางการตลาดก็เป็นได้...
ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,ไร่รักษ์ไม้สวนศิริผล,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,สินค้าเกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต