จาก โพสต์ทูเดย์
โดย...ทีมข่าวในประเทศโพสต์ทูเดย์
"ลูกโป่งก๊าซหัวเราะ" หรือ ลูกโป่งที่บรรจุก๊าซไนตรัสออกไซด์ คงเป็นที่คุ้นเคยสำหรับนักท่องราตรีตามแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน โดยเฉพาะชาวต่างชาติจะรู้จักกันเฉพาะกลุ่มเป็นอย่างดีถึงสรรพคุณภายในลูกโป่ง ซึ่งกำลังกลับมาเป็นที่นิยมของบรรดาชาวต่างชาติและคนไทยอีกครั้ง หลังถูกตำรวจปราบปรามไปเมื่อช่วงปีก่อน แต่แล้วตลาดความต้องการและการลักลอบทำความผิดของพ่อค้าแม่ค้าได้หวนกลับมาขายเจ้าลูกโป่ง “ก๊าซหัวเราะ” อีกครั้ง
ทีมข่าวโพสต์ทูเดย์ จึงลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีที่ขึ้นชื่อว่ามี่นักท่องเที่ยวมาใช้บริการและมีเงินสะพัดนับล้านต่อคืน ไม่ใช่จุดอื่นใด แต่เป็น “ถนนข้าวสาร” ใจกลางนครมหาเสน่ห์ อย่างกรุงเทพมหานคร ทีมข่าวได้ข้อมูลจากตำรวจ สน.ชนะสงคราม ว่าเริ่มมีพ่อค้าแม่ค้าแอบนำลูกโป่งก๊าซหัวเราะมาขายให้กับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง
โดยทีมข่าวตั้งหลักที่ สน.ชนะสงคราม ก่อนเดินเข้าสู่ถนนข้าวสาร ระยะทางกว่า 500 เมตร ซึ่งเรียงรายด้วยเกสท์เฮ้าส์ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า และบริการท่องเที่ยวต่าง ๆ มากมาย ไว้บริการให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนถนนแห่งความบันเทิงนี้ ใช้เวลาเดินอยู่สักพักใหญ่ ก่อนพบเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 3-4 คน ยืนถือลูกโป่งอยู่ 2 ลูก โดยมีชายไทยหยิบยืนลูกโป่งให้ คาดว่าน่าจะเป็นพ่อค้าที่แอบขายลูกโป่งก๊าซหัวเราะ จากนั้นนักเที่ยวชาวต่างชาติใช้จมูกสูดดมก๊าซที่บรรจุในหัวโป่ง พร้อมออกอาการสนุกสนานในหมู่เพื่อนอยู่ครู่หนึ่ง
ด้วยความสงสัยทีมข่าวจึงปลอมตัวเป็นลูกค้า สอบถามขั้นตอนการทำและราคา โดยหนึ่งในผู้ค้าอธิบายว่า ขั้นตอนการทำก๊าซหัวเราะ นั้นทำเพียงง่ายๆ แค่ผู้ค้าใช้กระป๋องวิปปิ้งครีมแล้วนำหลอดบรรจุแก๊สไนตรัสออกไซด์หมุนเกรียวให้เข้าที่ ก่อนบรรจุ “ก๊าซไนตรัสออกไซด์” ใส่ลูกโป่งตามออเดอร์ความต้องการ “ลูกโป่งหัวเราะ” โดยสนนราคาที่ลูกละ 50-100 บาท ซึ่งเมื่อสูดดมเข้าไปจะทำให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้ม ตัวลอย รู้สึกสนุก หัวเราะง่าย สำหรับสถานที่ที่ได้รับความนิยมและมีจำหน่ายตามแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน เช่น ภูเก็ต เกาะสมุย พัทยา ซอยนานา และถนนข้าวสาร ฯลฯ
ขณะที่ พ.ต.อ.สุนทร คงกล่ำ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 รักษารางการแทนผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าชุดสายสืบออกหาข่าวผู้ลักลอบขายก๊าซหัวเราะ และให้ป้องปรามกันการลักลอบขายก๊าซหัวเราะให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งตำรวจจะใช้วิธีนี้สกัดกั้นไม่ให้มีการขายเหมือนที่ผ่านมา โดยจัดกำลังตำรวจออกตรวจตราทุกตรอกซอกซอยใกล้กับถนนข้าวสาร เนื่องจากผู้ที่สูดดมเข้าไปจะเกิดอาการมึนงง หากพบว่ามีการกระทำความผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายทันที
“พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่ถนนข้าวสารที่ชอบลักลอบนำมาขายให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ การขายก็ตั้งโต๊ะขายกันริมถนนโจ่งครึ่ม เชื่อว่าจากนี้จะลดลงไปแน่นอนเพราะตำรวจได้เดินตรวจตราอย่างเข้มงวด ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการจับกุมผู้กระทำผิดไปแล้ว และเคยส่งฟ้องศาลดำเนินคดีตามกฎหมายไป” พ.ต.อ.สุนทร กล่าว
ด้าน ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ก๊าซหัวเราะจะมีฤทธิ์อยู่ในร่างกายเพียงแค่ 2-3 นาที จากนั้นร่างกายจะขับออก 100% ผ่านทางปอดทันที ดังนั้น ฤทธิ์ที่ทำให้หัวเราะก็อยู่ไม่นานหากสูดเข้าไปในปริมาณที่พอเหมาะ และความเหมาะสมของการใช้ก๊าซหัวเราะนี้ ร่างกายจะบังคับโดยอัตโนมัติ เช่น
เมื่อปริมาณที่ใกล้จะขาดออกซิเจนแล้ว ร่างกายจะสั่งให้หยุดเอง เพราะหากสูดดมต่อไปก็จะสลบ แต่ทั้งนี้ หากมองว่าเป็นสารเสพติดหรือไม่นั้น ก็อาจเป็นได้ เพราะยาทุกสิ่งหากมันสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้ ก็จะมีการขวนขวายหามาเสพมาใช้
ประเด็นที่สำคัญคือ หากจะต้องเสพในปริมาณมากนั้น ผู้เสพจะต้องห้อยลูกโป่งที่บรรจุก๊าซหัวเราะเป็นพวง หรือต้องพกถังก๊าซไนตรัสออกไซด์ที่เป็นสารผลิตก๊าซหัวเราะ แบกไปไหนมาไหนด้วย มันจึงไม่เกิดความสะดวก แต่หากถามว่าผิดกฎหมายหรือไม่ การขายก๊าซหัวเราะนั้นหากไม่ได้รับอนุญาตก็จะมีความผิดทันที มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท
“ทางการแพทย์ก็ใช้กัน แต่ใช้ในการรักษา โดยมีผลเพื่อให้ผู้ป่วยสลบ ระงับอาการปวด แต่ก็อยู่ในปริมาณที่แพทย์ต้องควบคุม”ภญ.ประพนธ์ ย้ำ
ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,ไร่รักษ์ไม้สวนศิริผล,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,สินค้าเกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
