จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ประยุทธ์"นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ตั้งอนุกรรมการจัดหาที่ดินให้ผู้ยากไร้เข้าทำกิน
พล.อ.ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติครั้งที่ 1 ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวานนี้ (7 พ.ย.) ว่า ที่ประชุมมีมติในวาระสำคัญว่าด้วยการพิจารณาแต่งตั้งอนุกรรมการ 3 ด้าน ได้แก่ อนุกรรมการจัดหาที่ดินมี รมว.ทส.เป็นประธาน มีหน้าที่จัดหาที่ดินให้คนยากจนทำกิน, อนุกรรมการจัดที่ดิน มี รมว.มหาดไทยเป็นประธาน มีหน้าที่จัดคนลงพื้นที่หลังจากที่คณะที่ 1 จัดหาพื้นที่แล้ว เพื่อให้เหมาะกับขนาดของพื้นที่ตามท้องถิ่นนั้นๆ
ส่วนกระทรวงมหาดไทย จะมีรายชื่อประชาชนที่ยากไร้ ขณะที่คณะที่ 1 มีรายชื่อของผู้บุกรุกพื้นที่ที่ถูกผลักดันออกไป และจะนำรายชื่อมาพิจารณาร่วมกันแล้วคัดเลือกว่าใครควรได้รับการจัดสรรที่ดินทำกิน
อนุกรรมการที่ 3 คือ อนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพ มี รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน มีหน้าที่ในการพิจารณาว่าพื้นที่ไหนควรจะทำอาชีพอะไรจึงจะเหมาะสม และจะทำหน้าที่ในการจัดระบบการใช้ประโยชน์ที่ดินตามนโยบาย โดยจะไม่มอบให้เป็นสิทธิรายบุคคล แต่จะมีการจัดหาระบบใหม่ เช่น การใช้ระบบสหกรณ์ หรือระบบอื่น โดยพิจารณาตามลักษณะพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้การตรวจสอบจำนวนผู้ยากไร้จะใช้เลขที่ประจำตัวประชาชนในการตรวจสอบผู้ยากไร้เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน
ตั้ง อปท.-เอ็นจีโอเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ
พล.อ.ดาวพงษ์ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้อนุกรรมการทำหน้าที่ของตน และรายงานผลกลับมายังคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติอีกครั้งในช่วงเดือน ธ.ค. เพื่อประเมินว่ามีผลสัมฤทธิ์เป็นอย่างไร และต้องรายงานทุก 3 เดือน ซึ่งอนุกรรมการทั้ง 3 คณะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรายงานต่อคณะกรรมการใหญ่เพื่อให้เห็นถึงความคืบหน้า
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้มีการพิจารณาผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 10 คน ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนองค์กรเอกชนที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล และต้องเป็นผู้มีความรู้ด้านการจัดการที่ดิน ปฏิรูปที่ดิน ผังเมือง การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ มีความรู้ด้านกฎหมายที่ดินและเศรษฐศาสตร์ เข้ามาเป็นคณะกรรมการใหญ่ด้วย
หวังแก้ปัญหาขายสิทธิ์ให้นายทุน
พล.อ.ดาว์พงษ์ ยังกล่าวถึงความมั่นใจของรัฐบาลในการจัดการปัญหารูปแบบใหม่ว่า ต้องย้อนไปดูว่าการแก้ปัญหาที่ดินที่มีการออกเอกสารสิทธิ์รายบุคคลมาหลายรูปแบบ แต่ก็พบว่ามีการขายสิทธิ์ไปจำนวนมาก จนผู้ได้รับเอกสารสิทธิ์กลายมาเป็นผู้ไม่มีที่ดินเหมือนเดิม และหาพื้นที่บุกรุกใหม่ การแก้ปัญหาแบบเดิมที่ได้ผลก็มี แต่การขายสิทธิ์ก็มีจำนวนมาก จนกลายเป็นปัญหาเดิมๆ รัฐบาลนี้จึงต้องคิดใหม่ ต้องการเปลี่ยนรูปแบบใหม่ แต่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ เป็นเหตุเป็นผล
"ยอมรับว่าเรื่องนี้ต้องใช้เวลา เชื่อว่าไม่เกินปีใหม่จะเห็นทิศทางของนโยบาย พร้อมยืนยันว่าการแก้ปัญหาที่ดินครั้งนี้ต้องไม่จัดให้ไปกระทบกับสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ต้องคำนึงในการจัดสรรพื้นที่ ทั้งนี้ทุกอย่างเป็นความตั้งใจของรัฐบาล ต้องได้เห็นผลสำเร็จที่จับต้องได้ทุก 3 เดือน"พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าว
ส่วนแนวทางการป้องกันกลุ่มทุนนั้น รมว.ทส. กล่าวว่า ต้องยอมรับว่ากลุ่มทุนมีทั้งดีและไม่ดี โดยเชื่อว่าการแก้ปัญหาโดยโครงสร้างใหม่นี้จะสามารถป้องกันนายทุนที่ไม่ดีได้ระดับหนึ่ง และทุกอนุกรรมการต้องดูเรื่องนี้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องแยกออกมา
แย้มพื้นที่ 3 ส่วนเตรียมจัดสรร
สำหรับพื้นที่ที่จะนำมาจัดสรรนั้น ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ 1.ที่ดินพร้อมจัดสรร สามารถใช้กฎหมายที่มีอยู่จัดสรรได้ทันที ซึ่งมีพื้นที่ของหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมป่าไม้ กรมธนารักษ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น 2.เป็นพื้นที่ที่ประชาชนเข้าอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ออกเอกสารสิทธิ์ สปก. และ 3.พื้นที่ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิ์ ก็ต้องให้เป็นไปตามกฎหมาย เช่น อุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต
"ในส่วนที่มีการบุกรุกพื้นที่นั้น จะต้องออกจากพื้นที่ทั้งหมด แต่คนยากจนก็จะได้รับการจัดสรรพื้นที่ใหม่ให้เป็นพื้นที่ทำกิน และจะเข้มงวดในส่วนของอุทยานแห่งชาติมากที่สุด นอกจากนี้กระทรวง ทส.ได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ตั้งคณะกรรมการปรับปรุงระบบแผนที่ โดยจะปรับมาตราส่วนจาก 1:50,000 เป็น 1:4,000 ด้วย" รมว.ทส. กล่าว
ส่วนกรณีที่มีการจัดคอนเสิร์ตในพื้นที่ป่านั้น พล.อ.ดาวพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นพื้นที่ของเอกชน อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ไปพิจารณาในการออกกฎกระทรวงเพื่อป้องกันเสียงรบกวนทั้งคนและสัตว์ แม้จะตั้งในพื้นที่ส่วนบุคคลก็ตาม
"ประยุทธ์"แจงกรรมสิทธิ์ยังเป็นของรัฐ
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อค่ำวานนี้ว่า ปัญหาที่ดินทำกินมีความซับซ้อน เกี่ยวพันกฎหมายหลายฉบับ รัฐบาลจึงกำหนดแนวทางแก้ปัญหาแบบบูรณาการ โดยจัดตั้ง "คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ.2557" ขึ้นมาเพื่อบริหารจัดการปัญหาต่างๆ อย่างครบวงจร
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกันก็คือ การจัดสรรที่ดินให้กับผู้ยากไร้ต้องตรวจสอบก่อนเพื่อความถูกต้อง ไม่ได้เป็นการให้เปล่า ไม่ได้ยกให้ใคร และไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ เป็นการอนุญาตให้เข้าไปประกอบอาชีพตามเงื่อนไขที่กำหนด ส่วนกรรมสิทธิ์ที่ดินยังคงเป็นของรัฐ ที่ดินที่ได้รับการจัดสรรจะต้องถึงมือประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน มารวมกลุ่มกัน ออกแรงแล้วรัฐก็จะดูแล ปันส่วนให้ เพราะฉะนั้นเมื่อผลประโยชน์ออกมาก็แบ่งปันกัน เนื่องจากใช้พื้นที่ของหลวง
"ก็เหมือนกับเช่า คล้ายๆ กัน แต่นี่ออกแรงไปด้วย ทำนาทำไร่ปลูกพืชสวนอะไรไปด้วย ก็น่าจะเป็นสัดส่วนที่น่าจะพอให้พี่น้องประชาชนที่ไม่มีที่ทำกินพออยู่ได้ อย่างที่กล่าวอ้างกันมาว่าไม่มีที่ดินทำกินแล้วจะให้ไปทำอะไร เราเป็นห่วงเรื่องเหล่านี้ ไม่อยากให้ตกถึงมือนายทุน 50 ปีที่ผ่านมาผืนป่าของเราลดลงจาก 171 ล้านไร่ เหลือเพียง 102 ล้านไร่ จะต้องไม่มีบุกรุกอีก 102 ล้านไร่นี้ต้องรักษายิ่งชีวิต" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,ไร่รักษ์ไม้สวนศิริผล,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,สินค้าเกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
