จากประชาชาติธุรกิจ
กลุ่มรักษ์ปากช่องบุกยื่น′บิ๊กต๊อก′สอบนายทุนรุกที่โคราชนับหมื่นไร่ ขณะที่เครือข่ายคืนผืนป่าร่อนหนังสือเปิดผนึกถึง′ดาว์พงษ์′
เมื่อ วันที่ 28 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชมรมคนรักวังน้ำเขียวและเครือข่ายคืนผืนป่าวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ได้ทำหนังสือเปิดผนึกถึง พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ และนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อร้องเรียนกรณีที่รีสอร์ตภูผาธาราฟ้า ซึ่งเป็น 1 ใน 44 รีสอร์ตที่เข้าข่ายบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าพนักงานป่าไม้ กรมป่าไม้ ได้เข้าแจ้งความกล่าวโทษไว้ที่ สภ.วังน้ำเขียว
โดยในหนังสือเปิด ผนึกระบุว่า ภูผาธาราฟ้าเป็น 1 ในรีสอร์ตที่บุกรุกผืนป่า แต่เวลานี้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกลับปล่อยให้รีสอร์ตดังกล่าวจัด คอนเสิร์ต โดยมีการโปรโมตอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งคอนเสิร์ตที่รีสอร์ตดังกล่าวจะจัดขึ้นชื่อว่าคอนเสิร์ต เพลงรัก "Voice of Love Music Festival" ในวันที่ 29 พฤศจิกายน เพื่อรับลมหนาว มีนักร้องจำนวนมากมาร้องเพลงให้ฟัง โดยงานนี้จะขายบัตรพร้อมกับเต็นท์นอน 2 คนต่อเต็นท์ 1 หลัง ดูคอนเสิร์ตเสร็จสามารถนำเต็นท์กลับบ้านได้ ทั้งนี้ หากใครจะนำเต็นท์มากางนอนเองก็ได้ด้วย
หนังสือเปิดผนึกชมรมคนรักวัง น้ำเขียวและเครือข่ายคืนผืนป่าวังน้ำเขียว ระบุด้วยว่า ทางกลุ่มไม่แน่ใจว่าการจัดงานครั้งนี้มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่เกี่ยวข้องรู้ เห็นเป็นใจ หรือให้การสนับสนุนด้วยหรือไม่ จึงสามารถดำเนินการได้ใหญ่โตขนาดนี้ ทางกลุ่มไม่อยากให้วังน้ำเขียวเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับจัดคอนเสิร์ตที่ผิด กฎหมาย และท้าทายกฎหมายเช่นนี้ มิฉะนั้นแล้วต่อไปจะมีคอนเสิร์ตเพลงร็อก เพลงลูกทุ่ง เพลงเพื่อชีวิต ฯลฯ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
"เราจึงขอเรียกร้องให้ผู้มี อำนาจเข้ามาช่วยจัดระเบียบ คืนความสุขให้ผืนป่าวังน้ำเขียว ก่อนที่จะเป็นแบบอย่างของการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยที่ผู้มีอำนาจปล่อยปละละเลย เราต้องการเห็นคำที่แต่ละท่านให้สัมภาษณ์ ให้สัญญากับประชาชน ถูกเอามาปฏิบัติเพื่อเป็นแบบอย่าง อย่างจริงจัง" หนังสือเปิดผนึกระบุ
นายธีรภัทรกล่าวว่า ได้เข้าไปตรวจสอบแล้ว พบว่าตั้งแต่ปี 2554 กรมป่าไม้ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับรีสอร์ตที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่ง ชาติป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว ต่อ สภ.วังน้ำเขียว 44 คดี เป็นพื้นที่ทั้งหมด 1,200 ไร่ ในจำนวนนี้มี 3 คดี คาบเกี่ยวกับพื้นที่ ส.ป.ก. โดยทั้งหมดอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ที่ผ่านมา
กรมป่าไม้ได้ติดตามความคืบหน้าของคดีเป็นระยะ
แต่ พบว่าไม่มีความคืบหน้ามากนัก วันนี้จึงได้ทำหนังสือไปถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้เร่งรัดดำเนินคดีด้วย
"สำหรับ การจัดคอนเสิร์ตนั้น พบว่ามีการขอใช้พื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ที่ถูกจับกุม โดยบริเวณที่จัดงานนั้นห่างจากตัวรีสอร์ตไปประมาณ 2-3 กิโลเมตร และเป็นพื้นที่ที่กรมชลประทานขอกรมป่าไม้เพื่อสร้างอ่างเก็บน้ำ ผมไม่ทราบว่ากรมชลประทานอนุญาตให้ใช้พื้นที่หรือไม่ แต่จากข้อมูลทราบว่ามีความพยายามขอใช้พื้นที่อื่นๆ ในบริเวณเดียวกันกับทาง จ.นครราชสีมา แล้ว แต่ทางจังหวัดไม่อนุญาต" นายธีรภัทรกล่าว
เมื่อ ถามว่า การจัดคอนเสิร์ตอาจเสียงดังทั้งคืนส่งผลกับการดำรงชีวิตของสัตว์ป่าโดยเฉพาะ กระทิงหรือไม่ นายธีรภัทรกล่าวว่า เขาแผงม้าอยู่ห่างจากพื้นที่ดังกล่าวพอสมควร แต่ไม่แน่ใจอาจมีกระทิงที่แตกฝูงออกมาอยู่นอกป่าใกล้กับบริเวณที่จัดงานหรือ ไม่ แต่คิดว่าโดยธรรมชาติแล้วไม่น่าจะมีและไม่รู้ว่าเสียงของเครื่องเสียงจะดัง มากแค่ไหน หากไม่ดังมากไม่น่าจะมีผลกระทบ แต่ถ้ามีเสียงดังมากและเล่นเป็นเวลานานก็น่าเป็นห่วง ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรายละเอียดของงานเพิ่มเติมแล้ว หากพบว่ามีผลกระทบก็จะแจ้งเรื่องไปยังหน่วยงานอนุญาตอีกครั้ง
วัน เดียวกัน ที่กระทรวงยุติธรรม ชาวบ้านกลุ่มรักษ์ปากช่อง นำโดย นายจรงค์ รุ่งช่วง ประธานกลุ่มรักษ์ปากช่อง ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยมี พล.ท.นุ โชติสันต์ คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องแทน
นายจรงค์กล่าว ว่า ขอให้กระทรวงยุติธรรมยึดหลักกฎหมายในการปราบปราม การบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติหรือพื้นที่ป่า ที่ปัจจุบันที่ดินในพื้นที่ปากช่องหลายหมื่นไร่ ถูกนายทุนและผู้มีอิทธิพลบุกรุกยึดและทำเป็นรีสอร์ต โดยชาวบ้านและเกษตรกรที่แท้จริงไม่ได้ใช้พื้นที่ นอกจากนี้ หลายพันไร่ที่เป็นคดีความ มีการสอบสวน แต่เมื่อส่งเรื่องไปยังกรมที่ดิน เพื่อขอให้เพิกถอนโฉนดแต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ จากกรมที่ดิน
นาย จรงค์กล่าวอีกว่า พฤติการณ์ที่พบคือมีการออก น.ค.3 ทับที่ ส.ป.ก. จนกระทั่งพัฒนาเป็นโฉนด ปัจจุบันนิคมสร้างตนเองยอมรับว่าที่ดินหลายแปลงออก น.ค.3 นอกพื้นที่ น.ค.3 โฉนดจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และกรมที่ดินต้องเพิกถอน มีหลายพันไร่ที่ อ.ปากช่อง ที่ทำในลักษณะนี้ โดยเมื่อได้โฉนดแล้วก็นำไปสร้างรีสอร์ต สนามกอล์ฟ และสนามแข่งรถ รูปแบบการครอบครองที่ดินของนายทุนและข้าราชการระดับสูงทำให้เกิดความไม่เป็น ธรรม นายทุนมีอำนาจต่อรอง แต่ชาวบ้านไม่มีที่ทำกิน จึงอยากให้รัฐบาลแก้ไขให้เกิดความเป็นธรรม
ทั้งนี้ กลุ่มรักษ์ปากช่องยังได้ยื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ได้รับมอบหมายภารกิจด้านปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ
พ.ต.อ. ดุษฎีกล่าวว่า จะเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตั้งคณะกรรมการบูรณาการร่วมระหว่างกระทรวงยุติธรรมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาเพิกถอนโฉนดในที่ดินที่สอบสวนพบว่ามีการได้มาโดยมิชอบ โดยการสอบสวนจะใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยแปลภาพถ่ายทางอากาศ และพิสูจน์สิทธิ เพื่อให้นโยบายจัดการกับปัญหาบุกรุกมีรูปธรรมชัดเจน ประชาชนจะได้เห็นภาพการแก้ปัญหา
ส่วนกรณีทหารกองทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจสอบนายทุนบุกรุกที่ ส.ป.ก. บริเวณ ต.ไชยมงคล อ.เมือง จ.นครราชสีมา และลักลอบขุดหน้าดินไปขายกว่า 300 ไร่ มูลค่าความเสียหายนับหมื่นล้านบาทนั้น
พ.ต.อ.วณัฐ อรรถกวิน รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ในฐานะคณะกรรมการระดับจังหวัด ผู้รับผิดชอบ เปิดเผยว่า หลังจาก สภ.โพธิ์กลาง ออกหมายเรียกให้ พ.ต.อ.เกื้อ สุขสมเพียร ผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อให้มาสอบปากคำในฐานะพยานปากสำคัญ ถึงขณะนี้ พ.ต.อ.เกื้อ ยังไม่ยอมมาให้ปากคำ แต่จากการสอบสวนพยานแวดล้อม และการรวบรวมหลักฐานต่างๆ มีความชัดเจนว่า พ.ต.อ.เกื้อ มีส่วนรู้เห็นกับการลักลอบขุดดิน ส.ป.ก.ในครั้งนี้ ดังนั้นเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาจึงอนุมัติให้ สภ.โพธิ์กลาง ออกหมายเรียกผู้ต้องหา 2 คน คือ พ.ต.อ.เกื้อ ผู้ครอบครองที่ดิน และนายวารินทร์ ลาบสันเทียะ หรือ "เสี่ยยุ้ย" นายทุนที่ลักลอบขุดดิน ส.ป.ก.ดังกล่าวไปขาย ในข้อหาร่วมกันลักลอบขุดดินในที่ ส.ป.ก.ไปขายโดยมิชอบ ซึ่งกำหนดให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาพบพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ หากไม่มาพบก็จะต้องออกหมายจับมาดำเนินคดีต่อไป
ที่มา นสพ.มติชน
สวนรักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
