จาก โพสต์ทูเดย์
บุรีรัมย์-เกษตรกรร้องรัฐช่วยสนับสนุนปุ๋ยเมล็ดพันธุ์พืชอายุสั้นปลูกทดแทนหลังทางการสั่งงดทำนาปรัง
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. นางพิชญากร พะยุดรัมย์ กำนันตำบลบ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกชี้แจงกับลูกบ้านให้งดทำนาปรัง หลังโครงการชลประทานจังหวัดได้ประกาศจะงดปล่อยน้ำให้เกษตรกรในเขตบริการปลูกข้าวนาปรังในปีนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตประปาหล่อเลี้ยงประชาชนในเขต อ.เมือง และ อ.ห้วยราช กว่า 23,000 ครัวเรือน เหลือน้อยเพียง 42% ของความจุอ่าง 27 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงเกรงว่าน้ำจะไม่เพียงพอผลิตประปาบริการประชาชนตลอดฤดูแล้ง
ขณะเกษตรกรที่เคยเพาะปลูกข้าวนาปรัง ได้เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ ด้วยการส่งเสริมการปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อยทดแทนข้าวนาปรัง พร้อมทั้งให้สนับสนุนปัจจัยการผลิต ทั้งปุ๋ย เมล็ดพันธุ์พืช อาทิ เมล็ดพันธุ์ข้าวโพด ถั่วลิสง หรือ ปอเทือง ให้เกษตรกรนำไปปลูก เพื่อเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัวช่วงฤดูแล้งนี้
นางพิชญากร กำนันตำบลบ้านบัว กล่าวว่า ที่ผ่านมามีเกษตรกรต.บ้านบัว ทำนาปรังอยู่ประมาณ 100 ราย พื้นที่ปลูกกว่า 2,000 ไร่ แต่ปีนี้ทางชลประทานได้ประกาศจะงดปล่อยน้ำให้ทำนาปรังเพราะเกรงน้ำจะไม่เพียงพอผลิตประปาซึ่งก็ได้ชี้แจงให้เกษตรกรในพื้นที่รับทราบแล้ว แต่ก็อยากให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการสนับสนุนส่งเสริมปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อยทดแทนเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวในช่วงหน้าแล้งนี้
ด้านนายสนิท เอการัมย์ เกษตรกรบ้านม่วงใต้ ต.บ้านบัว กล่าวว่า เห็นด้วยกับโครงการที่รัฐบาลจะให้งบประมาณผ่านกรมชลประทานเพื่อจ้างงานเกษตรกรที่ไม่ได้ทำนาปรังในปีนี้เพราะหากไม่ได้ทำนาปรังเกษตรกรก็จะว่างงานขาดรายได้ แต่การจ้างงานก็อยากให้จ้างเกษตรกรในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริงในการขุดลอกหรือพัฒนาคลองซอย คลองไส้ไก่ ที่อุดตันเพื่อให้น้ำสามารถไหลได้สะดวกเพื่อให้เกษตรกรที่มีที่นาปลายน้ำได้มีน้ำใส่นาข้าว ซึ่งก็จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ในช่วงหน้าแล้งนี้ด้วย.
สวนรักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต