จากประชาชาติธุรกิจ
วันนี้ (20 ต.ค. 2557) เป็นวันแรกที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ได้เริ่มจ่ายเงินชดเชยให้ชาวนา8 จังหวัด โดยตั้งเป้าว่าน่าจะทยอยจ่ายจนครบทั้งประเทศภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.เปิดเผยว่า วันนี้จะเป็นวันที่ ธ.ก.ส.จะเริ่มจ่ายเงินก้อนแรกให้กับชาวนา ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติให้ ธ.ก.ส.ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวรวม 3.5 ล้านครัวเรือนตามพื้นที่ปลูกข้าวจริงแต่ไม่เกิน 15 ไร่ อัตราไร่ละ 1,000 บาท วงเงินรวมกว่า 4 หมื่นล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรจากราคาผลผลิตตกต่ำและมีรายได้เพียงพอ ต่อการดำรงชีพ โดยจะจ่ายให้กับ 8 จังหวัดนำร่องก่อนคือ พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร ลพบุรี ขอนแก่น ศรีสะเกษ มุกดาหาร และสุรินทร์ โดย 2 จังหวัดหลังได้เพิ่มเข้ามาใหม่เพื่อให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมเรื่องการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและกรมส่ง เสริมการเกษตรได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วครอบคลุมการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนากว่า 5 หมื่นราย วงเงิน 600 ล้านบาท เงินก้อนนี้จะเริ่มโอนเข้าบัญชีเกษตรกรได้ทันที ทั้งนี้คาดว่า ธ.ก.ส.จะทยอยจ่ายเงินให้กับชาวนาตามเป้าหมายภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้
สำหรับเอกสารที่ชาวนาจะต้องเตรียมเพื่อนำมายื่นต่อสาขาของธนาคารคือ ใบรับรองเกษตรกรจากกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำเนาบัตรประชาชน และสมุดบัญชีที่เปิดกับ ธ.ก.ส. คาดว่าชาวนาจะได้รับเงินภายใน 3 วันหลังจากที่มีการยื่นเอกสารเรียบร้อยแล้ว
ด้านหม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงนโยบายดังกล่าวว่าจากการศึกษาข้อมูล พบว่าชาวนารายเล็กที่มีที่ดินต่ำกว่า 5ไร่ มีกว่า 5 แสนครัวเรือน ที่ผ่านมาไม่ได้รับประโยชน์จากโครงการรับจำนำข้าวเลย ทั้งที่เป็นกลุ่มที่รัฐบาลต้องให้ความช่วยเหลือ เพราะกลุ่มนี้มีรายได้เฉลี่ยจากการทำนาเพียงปีละ 20,000 บาทเท่านั้น นโยบายการแจกเงินชาวนาแบบนี้นั้น เป็นการทำให้เห็นว่า การช่วยเหลือชาวนาแบบไม่ต้องมีการคอรัปชั่นทำได้จริง ไม่ใช่นโยบายจำนำข้าวที่ช่วยเหลือชาวนาได้เพียง 1 ล้านครัวเรือนเท่านั้น
ที่มา : มติชนออนไลน์
สวนรักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
