จากประชาชาติธุรกิจ
หมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขาใหญ่ที่มีบ้านเพียง 8 หลังคาเรือน ประชากรเพียง 30 คน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปาเข้าถึง คงเป็นเพียงหมู่บ้านธรรมดาๆ ที่อาจอยู่นอกสายตาและเป้าหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยว แต่บ้าน "ป่าปงเปียง" ขีดขอบคดโค้งของทุ่งนาขั้นบันไดที่ขุนเขาและธรรมชาติได้ห่อหุ้มไว้ กับรอยยิ้มของชาวปกากะญอ คือ ความงดงาม ประทับใจ และถูกบันทึกไว้ในความทรงจำของใครหลายคนที่ได้มาแวะเยือน
บ้านป่าปงเปียง ตั้งอยู่บนยอดดอยสูงในเขตตำบลช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ระยะทางจากตัวเมืองแม่แจ่มถึงป่าปงเปียงราว 14 กิโลเมตร แต่ด้วยสภาพถนนดินแดง แคบ ขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ กับสองข้างทางที่เป็นป่า ไร่ข้าวโพด และหุบเหวลึก จึงต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ อาจเป็นความยากลำบากสำหรับการเดินทางไปบ้านป่าปงเปียง แต่มันคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้เห็นอยู่เบื้องหน้า "ทุ่งนาขั้นบันได" เขียวขจีจากบันไดหนึ่งขั้น เป็นสองขั้น สาม สี่ ห้า และไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้ทุกองค์ประกอบของทัศนียภาพดูสวยงามยิ่งนัก
ความโดดเด่นของป่า ปงเปียง มิใช่เพียงทุ่งข้าวเขียวขจีที่ผลิดอกออกรวงเป็นอาหารหล่อเลี้ยงชาวปกากะ ญอเพียง 30 ชีวิตบนหุบดอยนี้เท่านั้น ทว่า ต้นข้าวทุกต้น รวงข้าวทุกรวง ภูมิประเทศที่สวยงามของที่นี่ เป็นแรงดึงดูดและบันดาลใจให้นักเดินทางต้องดั้นด้นรอนแรมมาตักตวงความสุข
"วิจิตร หลังสัน" นายอำเภอแม่แจ่มบอกว่า อำเภอแม่แจ่ม ได้ส่งเสริมการทำนาขั้นบันไดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาการทำไร่หมุนเวียนและบุกรุกทำลายป่า ด้วยสภาพพื้นที่ของอำเภอแม่แจ่มเป็นที่ราบเชิงเขาและหุบเขา ทำให้การปลูกข้าวทำนาในแนวราบทำได้ค่อนข้างลำบาก ชาวบ้านจึงทำไร่หมุนเวียน มีการบุกรุกทำลายป่า
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโครงการพระราชดำริและโครงการพัฒนาที่สูงเฉพาะพื้นที่ ได้เข้ามาส่งเสริมให้ชาวบ้านทำนาขั้นบันได เพื่อลดพื้นที่การทำไร่หมุนเวียน พันธุ์ข้าวที่ปลูกคือข้าวดอย ปัจจุบันพื้นที่ 7 ตำบล 104 หมู่บ้านของอำเภอแม่แจ่ม มีสัดส่วนราว 80% ที่หันมาทำนาขั้นบันไดอย่างจริงจัง โดยปลูกข้าวไว้กินเอง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาการบุกรุกทำลายป่าและลดการทำไร่หมุนเวียนลงได้อย่างมาก
ในระยะ 2-3 ปีนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวชมนาขั้นบันไดมากขึ้น มีจุดน่าสนใจหลายจุด เช่น บ้านกองกาน ต.แม่ศึก และบ้านป่าปงเปียง ต.ช่างเคิ่ง ซึ่งอำเภอเตรียมพัฒนาและส่งเสริมให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ที่สำคัญอีก จุดหนึ่งของอำเภอแม่แจ่ม และเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่มีอยู่แล้ว เช่นน้ำตก น้ำพุร้อนวัดเก่าแก่ และหมู่บ้านทอผ้าตีนจก
"พิชญ์สินี ทัศน์นิยม" ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่กล่าวว่า บ้านป่าปงเปียงเป็นชุมชนเล็กๆ ที่มีภูเขาสลับซับซ้อนโอบล้อม มีลำธารสายเล็กๆ ไหลผ่าน อากาศเย็นสบายตลอดปี ททท.ได้เตรียมแผนที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยว อ.แม่แจ่ม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่น่าสนใจ
"บริพัตร นัดดาศิล" ชาวปกากะญอ วัย 22 ปี บอกว่า บ้านป่าปงเปียงมีบ้านเพียง 8 หลังคาเรือน มีประชากร 30 คน ทุกคนเป็นปกากะญอ และทำนากันเพียงอย่างเดียวทุกครัวเรือน การทำนาของคนที่นี่เป็นการทำเพื่อเก็บข้าวไว้กินกันเองตลอดปี ข้าวที่ปลูกเป็นข้าวไร่พันธุ์พื้นเมือง ซึ่งปลูกได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น
"สิ่งสำคัญที่สุดและเป็นหัวใจหลักของการทำนาขั้นบันได้ ก็คือ น้ำ ขณะนี้ชุมชนต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยพัฒนาลำเหมือง เพื่อรับน้ำมาจากน้ำตกแม่ปานมากักเก็บน้ำไว้ทำนาได้ตลอดทั้งปี"
สำหรับ "ขนำ" หรือกระท่อมปลายนาขั้นบันไดของปกากะญอ หนุ่มคนนี้ที่สร้างไว้เพื่อพักผ่อน หลบแดด หลบฝนขณะออกทำงานกลางท้องทุ่ง กลายเป็น "โฮมสเตย์" เต็มรูปแบบแล้ว ปัจจุบันในละแวกพื้นที่ทุ่งนาป่าปงเปียงมีขนำบริการนักท่องเที่ยว 4 หลัง
นาขั้นบันไดจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วงให้ได้ชื่นชม คือ ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เป็นช่วงเริ่มปักดำนา และเริ่มมีต้นกล้าเล็กๆ ช่วงกันยายน-ตุลาคม เป็นช่วงที่ต้นข้าวเติบโตสีเขียวเต็มท้องทุ่ง และเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงสุดท้ายที่ต้นข้าวสีทองอร่าม
ทุ่งนาขั้นบันได "ป่าปงเปียง" ดั่งผืนพรมเขียวชอุ่ม ไล่สเต็ปไปตามหุบเขาลดหลั่น เส้นทางสุดอันซีน "แม่แจ่ม" เรียบง่าย สงบงาม ความลงตัวของธรรมชาติและวิถีชีวิตที่ใครได้เข้ามาสัมผัสแล้วต้องหลงรัก
สวนรักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต