จาก โพสต์ทูเดย์
สุพรรณบุรี-เกษตรยังคงเดินหน้าทำนาไม่สนชลประทานปิดน้ำเชื่อผ่านพ้นวิกฤตไปได้
ชาวนาต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ยังคงเดินหน้าทำนากันต่อไป แม้ว่าชลประทานได้แจ้งการปิดน้ำในเดือนพ.ย.นี้เนื่องจากน้ำกักเก็บน้อย อาจจะส่งผลให้ชาวนาที่กำลังจะเริ่มทำนา หรือทำนาไปแล้วทำให้ผลผลิตเสียหาย แต่ชาวนาส่วนใหญ่เชื่อว่าจะผ่านพ้นวิกฤตช่วงนั้นไปได้
นายธงชัย บุญญสิทธิ์ ชาวนาหมู่ที่ 6 ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ครอบครัวทำนาทั้งหมดจำนวน 17 ไร่ ซึ่งหนึ่งไร่เฉลี่ยใช้ต้นทุนผลิตอยู่ที่กว่า 6 พันบาทเพราะมีค่าใช้จ่ายเมล็ดพันธ์ การจ้างรถปั่นดิน ค่าหว่านเมล็ดพันธ์ ฉีดยาคุมเปียกและยาคุมแห้ง ค่าปุ๋ย ค่าหว่านปุ๋ย และสูบน้ำเข้านา ซึ่งจะต้องมีเงินทุนสำรองในช่วงแรกจำนวนหนึ่งก่อนที่จะปล่อยข้าวเจริญเติบโต
นางธงชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมดินซึ่งในวันที่ 20 ต.ค.นี้คงจะหว่านข้าวในแปลงนา ซึ่งช่วงที่ปิดน้ำก็คงข้าวเริ่มตั้งต้น และข้าวช่วงนั้นจะสามารถทนแล้งได้ประมาณ 1 เดือนเพราะมีน้ำเดิมหล่อเลี้ยงอยู่ ซึ่งช่วงนั้นอาจต้องใช้น้ำบาดาลน้ำตื้นมาช่วยหล่อเลี้ยงข้าว แม้ว่าต.สนามชัยเป็นน้ำกร่อยเป็นส่วนใหญ่แต่สามารถผสมน้ำเดิมที่มีอยู่ในนาเพื่อเจือจางได้
"ถามว่ากลัวไหมในการทำนาครั้งนี้ก็หวั่นๆเหมือนกันเพราะการทำนาครั้งหนึ่งต้องลงทุนด้วยเงินจำนวนมากแต่ว่าชาวนาส่วนใหญ่เชื่อว่าการเสี่ยงทำนาครั้งนี้น่าจะรอดเพราะไม่อยากให้ที่นาว่างเปล่าเหมือนคนขี้เกียจทิ้งนารกร้าง ส่วนเรื่องบำเหน็จ บำนาญ ได้ก็ดี ส่วนจะให้ชาวนาหยุดทำนาคงเป็นเรื่องยากเพราะชาวนาก็ไม่อยากให้ที่นารกร้าง"นายธงชัย กล่าว
ด้านนางดอกไม้ บุญสิทธิ์ ชาวนาต.สนามชัย กล่าวว่า เธอตัดสินใจทำนาเพราะไม่รู้จะทำอะไรกิน มีอาชีพเดียวถึงแม้นจะรับข่าวสารมาว่าจะปิดน้ำในช่วงเดือนพ.ย.นี้แต่เชื่อว่านาข้าวจะรอดจากช่วงวิกฤตอย่างแน่นอน แม้ว่าชลประทานปิดนำแต่ก็ต้องทำเพราะชาวนาไม่ยอมงอมืองอเท้าอดตายอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องของบำเหน็จ บำนาญชาวนาได้ก็ดี แต่ก็คงห้ามชาวนาไม่ได้เพราะชาวนาก็ยังคงทำนากันอย่างต่อเนื่องอาจรับเงินและทำนาต่อเหมือนเดิม
ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต