จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ Smart SMEs โดย วีระศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ
ในช่วงฤดูเพาะปลูกอย่างนี้ ท่านที่เดินทางในต่างจังหวัดเป็นประจำ คงเคยเห็นวงจรชีวิตในพื้นที่เกษตรกรรมจนชินตา โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน ที่มักจะแห้งแล้งเกือบ 2 ใน 3 ของปี พอฝนมาก็จะพากันเขียวขจีอยู่พักหนึ่ง หลังเก็บเกี่ยวแล้วก็กลับไปแห้งแล้งเหมือนเดิม เป็นวัฏจักรอยู่อย่างนี้แต่ไหนแต่ไร
ทั้งๆ ที่บ้านเราเป็นประเทศเกษตรกรรมมาช้านาน แต่น่าเสียดายที่หน่วยผลิตทางการเกษตรส่วนใหญ่ในประเทศยังขาดการเชื่อมโยง กับตลาดและส่วนอื่นๆ ในซัพพลายเชน ทำให้ผลผลิตที่ได้ไม่ตรงกับความต้องการของตลาด หรือมีปริมาณมากเกินความต้องการ ประกอบกับขาดการบริหารจัดการที่ดี ทำให้ต้นทุนสูงและความสามารถในการแข่งขันลดลง
ในความเป็น จริง ใช่ว่าอาชีพเกษตรกรหรือธุรกิจการเกษตรจะไม่รุ่ง เพราะจากการที่ผมเคยทำงานร่วมกับลูกค้าของธนาคารกรุงเทพที่มีอยู่ในทุก อุตสาหกรรม ผมพบว่า
"ทำอะไร ไม่สำคัญเท่ากับทำอย่างไร" คือ ไม่สำคัญว่าท่านประกอบอาชีพอะไร ทำธุรกิจอะไร ต่อให้ท่านอยู่ในอุตสาหกรรมที่อยู่ในช่วงขาลง หรือแข่งขันยาก แต่ หากท่านมีวิธีการและกระบวนการที่ดี ธุรกิจของท่านก็สามารถทำกำไรและเติบโตได้
ยกตัวอย่าง ลูกค้าท่านหนึ่งที่เคยเป็นเกษตรกรชาวสวนส้มรังสิต ซึ่งประสบปัญหาสภาพดินเสื่อมโทรม โรคและแมลงระบาด แต่ท่านก็ไม่ย่อท้อ กลับบุกเบิกที่ดินแห่งใหม่และลงทุนทำสวนส้มอีกครั้ง จนทุกวันนี้ท่านเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารที่ประสบความสำเร็จอย่าง สูงในการผลิตและจำหน่ายส้มคุณภาพดี และที่สำคัญคือท่านมีเคล็ดลับในการดูแลต้นส้มให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ และออกผลให้เก็บเกี่ยวก่อนถึงฤดูกาลที่ส้มจากจีนจะเข้ามาแย่งตลาดในบ้านเรา
ยังมีลูกค้าอีกท่านหนึ่งที่ช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่สินค้าเกษตรไทยด้วยการบุกเบิกธุรกิจเนื้อสัตว์แปรรูปเมื่อกว่า 50 ปีที่แล้วด้วยเงินลงทุนเพียง 600 บาทโดยรับซื้อเนื้อหมูคุณภาพดีจากเกษตรกรมาผลิตไส้กรอกเพื่อจำหน่ายในประเทศ จวบจนวันนี้ทายาทธุรกิจรุ่นที่ 3 และ 4 ของท่านเป็นผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ประเภทหมูและไก่แปรรูปกว่า 200 ชนิด โดยนอกจากการให้ความสำคัญกับคุณภาพวัตถุดิบ และมาตรฐานการผลิตแล้ว ผู้ประกอบการรายนี้ยังให้โอกาสเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรและไก่ ตลอดจนโรงชำแหละที่ได้มาตรฐานทุกแห่งเข้ามาเป็นคู่ค้าได้อย่างเสรี
นับเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรของไทย ดังนั้นหากเกษตรกรสามารถผลิตเนื้อหมูและไก่ที่มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้ บริโภค ก็มีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของซัพลายเชนอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพสูงได้ไม่ยาก
ธนาคาร กรุงเทพตระหนักถึงความสำคัญของภาคเกษตรกรรมและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ สินค้าเกษตรมาโดยตลอด จึงได้ริเริ่ม "โครงการเกษตรก้าวหน้า" ขึ้นในปี 2544 เพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทยให้มีความเข้มแข็งทั้งการผลิตและการตลาด ด้วยการสนับสนุนด้านสินเชื่อ ให้คำแนะนำด้านการบริหารการเงิน เทคโนโลยี และการบริหารจัดการ โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันการศึกษาชั้นนำ หน่วยงานภาครัฐ และเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ มาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้แก่เกษตรกรที่สนใจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ประสิทธิภาพการทำงาน และพัฒนารายได้ให้สูงขึ้น อีกทั้งโครงการนี้ยังเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงซัพพลายเชนในแต่ละชนิด สินค้าด้วย
หากกิจการของท่านเกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกรรม ผมแนะนำให้ท่านลองเข้าร่วมกิจกรรมของโครงการเกษตรก้าวหน้าดู นอกจากท่านจะได้รับประโยชน์จากการแลกเปลี่ยน-เรียนรู้ทางด้านวิชาการและ ประสบการณ์จริงของเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จแล้ว ท่านอาจพบช่องทางเข้าสู่ซัพพลายเชนที่เหมาะกับกิจการของท่านก็ได้ หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "โครงการเกษตรก้าวหน้า" ได้ในเว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพครับ
ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
