จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"ยูเอ็นอีพี"คาดการทำลายป่าชายเลนอุดมไปด้วยก๊าซคาร์บอน สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่า1.3ล้านล้านบาท
โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นอีพี คาดการณ์ว่า การทำลายป่าชายเลนซึ่งอุดมไปด้วยก๊าซคาร์บอน อาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่ากว่า 42,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.3 ล้านล้านบาทต่อปี เลยทีเดียว
ผู้อำนวยการยูเอ็นอีพี นางเมตเต วิลกี แถลงในกรุงเอเธนส์ของกรีซว่า ประมาณ 80% ของประชากรโลก อาศัยอยู่ภายในรัศมี 10 กิโลเมตรของป่าชายเลนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งหาอาหารของปลา และเป็นแนวป้องกันพายุโซนร้อนและเฮอร์ริเคนสำหรับชุมชนด้วย
ทั้งนี้ ป่าชายเลนถือเป็นหนึ่งในระบบนิเวศที่มีก๊าซคาร์บอนมากที่สุดในโลก มากกว่าแม้กระทั่งป่าเขตร้อน และถึงแม้ป่าชายเลนจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ยังคงเป็นหนึ่งในระบบนิเวศที่ถูกคุกคามมากที่สุดเช่นกัน โดยรายงานของยูเอ็นอีพีระบุว่า ปัจจุบัน ป่าชายเลนถูกคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการสูญเสียป่าดังกล่าว 10-15% ภายในปี 2643
ด้านผู้อำนวยการบริหารของยูเอ็นอีพี นายอาคิม สไตเนอร์ กล่าวว่า อัตราการทำลายป่าชายเลน และทำให้ป่าชายเลนเสื่อมโทรมที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในระดับที่น่าตกใจ โดยมีแรงขับมาจากการเปลี่ยนที่ดินเพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและการเกษตร ตลอดจนการพัฒนาชายฝั่ง และมลภาวะ โดยปัจจุบันนี้ โลกสูญเสียพื้นที่ป่าชายเลนไปกว่าหนึ่งในสี่ของที่เคยมีทั้งโลก
กรณีนี้ส่งผลเสียร้ายแรงต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ความมั่นคงทางอาหาร และการดำรงชีวิตของชุมชนชายฝั่งที่ถูกละเลยมากที่สุดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งมีป่าชายเลนถึง 90% ของทั้งโลก นอกจากนี้ รายงานของยูเอ็นอีพียังพบว่า 40% ของสายพันธุ์สัตว์และ 16% ของพันธุ์ไม้ที่พึ่งพาป่าชายเลน กำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ในปัจจุบันอีกด้วย
ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต