จากประชาชาติธุรกิจ
เกษตรฯ วางยุทธศาสตร์กล้วยไม้ไทยเข้มงวดคุณภาพส่งออกเตรียมจัดทำวิธีปฏิบัติมาตรฐาน ส่งเสริมสวนกล้วยไม้ GAP วงการธุรกิจเผย การขนส่งทางรถไปจีนไม่มีมาตรฐาน อัดทะนานทำกล้วยไม้เสียคุณภาพ-ราคาตกต่ำ รัฐเร่งดำเนินการเจรจา มองตลาดอนาคต พม่า-อินโดฯ-ฟิลิปปินส์
นายวิมล จันทรโรทัย รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การแข่งขันกล้วยไม้ ไทยในตลาดโลกว่า แผนงานในปีหน้าจะส่งเสริมเรื่องคุณภาพการส่งออกกล้วยไม้ไทย เช่น 1.การควบคุมคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานของประเทศผู้นำเข้า 2.วิธีปฏิบัติในการควบคุมการนำเข้า ทั้งเรื่องสวนกล้วยไม้ GAP โรงคัดบรรจุมาตรฐาน GMP และมาตรฐานคุณภาพช่อดอกกล้วยไม้
"ตลาดหลักใน การส่งออกกล้วยไม้ของไทยคือประเทศจีน มีการส่งออกปีละกว่า 30% ของปริมาณผลผลิตช่องทางการส่งออกมีทั้งทางเครื่องบินและรถยนต์ผ่านทางด่าน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ประเทศลาว ไปถึงตลาดคุนหมิง โอกาสที่จะพัฒนาในตลาดจีนให้มากขึ้นต้องอาศัยการรวมกลุ่มเพื่อพัฒนากล้วยไม้ ให้มีคุณภาพให้เหมือนกัน ส่วนกล้วยไม้ที่มีคุณภาพต่ำจำเป็นต้องแยกออกจากตลาดหลักทั่วไป เพื่อทำให้กลไกของราคาเป็นไปตามคุณภาพของราคาสินค้า" นายวิมลกล่าว
ด้านแหล่งข่าวจากวงการธุรกิจเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ราคากล้วยไม้ไทยในจีนมีปัญหาราคาตกต่ำ โดยเฉพาะช่วงออกพีกคือช่วง ส.ค.-ต.ค. ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากพ่อค้าจีนซึ่งเข้ามารับซื้อโดยตรง ซึ่งพ่อค้าเหล่านี้จะส่งสินค้าโดยรถยนต์ผ่านเส้นทาง R3A ในตู้คอนเทนเนอร์จะอัดกล้วยไม้จำนวนมาก ทำให้สินค้าเสียหายเมื่อถึงปลายทาง ราคาจึงตก ขณะนี้ราชการไทยทราบปัญหาแล้ว และกำลังพยายามเจรจากับทางการจีนอยู่
ดร.เศรษฐพงศ์ เลขะวัฒนะ รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านส่งเสริมการผลิตไม้ดอกไม้ประดับ กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การทำมาตรฐานกล้วยไม้นอกจากด้าน GAP ของสวนกล้วยไม้ และ GMP โรงคัดบรรจุแล้ว มองว่าอาจจะมีการนำมาตรฐานช่อดอกกล้วยไม้ของสำนักมาตรฐานสินค้าเกษตรและ อาหารแห่งชาติ (มกอช.) มาใช้เป็นมาตรฐานบังคับด้วย เพราะมาตรฐานนี้จะเกี่ยวข้องกับการตัดแต่งช่อ ความบานของดอก ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในตลาดสหรัฐอเมริกา
ดร.เศรษฐพงศ์กล่าวว่า กรณีเรื่องคุณภาพของกล้วยไม้ส่งออกไปจีน จำเป็นต้องหาช่องทางรักษาคุณภาพเพื่อความยั่งยืนในการทำตลาดและชื่อเสียงของ ไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกกล้วยไม้เมืองร้อนอันดับ 1 ของโลก มีตลาดหลักคือจีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป ส่วนการเปิดตลาดใหม่ ๆ ในตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ประเทศที่น่าสนใจคือเมียนมาร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์
"พม่าน่าสนใจเพราะเขาใช้ดอกไม้ในการบูชาพระ เยอะมาก หลังจากมีการติดต่อกันตอนนี้ก็มีออร์เดอร์เข้ามาแล้ว ส่วนอินโดนีเซียกับฟิลิปปินส์มีศักยภาพเพราะการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ จะทำให้ความต้องการใช้กล้วยไม้เติบโตตามในการประดับสถานที่ แต่ขณะนี้ยังมีปัญหาการกีดกันการนำเข้า"
แผนการส่งเสริมตลาด ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะโปรโมตกล้วยไม้ไทยให้มากขึ้น โดยแผนงานเร็ว ๆ นี้จะร่วมมือกับการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ในโอกาสครบรอบ 8 ปี สนามบินสุวรรณภูมิช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้ จะส่งพวงมาลัยกล้วยไม้แจกแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งช่วยในการโปรโม ตสินค้าและช่วยระบายสินค้าให้กับเกษตรกรด้วย ดร.เศรษฐพงศ์กล่าว
ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต