สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ผวจ.สั่งรื้อร้านอาหารมอปลาย่างลำตะคอง

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ผู้ว่าฯ โคราช สั่งรื้อร้านอาหารบริเวณมอปลาย่างลำตะคอง ออกทั้งหมด พร้อมเตรียมพื้นที่60ไร่ ให้เช่าสร้างร้านใหม่

ขณะที่ผู้ประกอบการร้านอาหารยันเป็นแค่ชาวบ้าน ไม่ใช่นายทุน และปัดเป็นต้นเหตุปล่อยน้ำเสียลงลำตะคอง

ที่ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ได้มีการประชุมคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ดินราชพัสดุเพื่อประกอบกิจการร้านอาหารบริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคอง หรือมอปลาย่าง โดยมีนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธาน และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.อ.สมหมาย บุษบา เสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 คณะทำงานด้านกฎหมายกองทัพภาคที่ 2, นายจักริน เชิดฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจังหวัดนครราชสีมา, นายสุรพันธ์ อินทก ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง, นายธวัชชัย เปลี่ยนศรี ธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา, ผู้แทนนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองสาหร่าย อ.ปากช่อง, ผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา, ผู้แทนสำนักงานสิ่งแวดล้อม ภาค 11, หัวหน้าหมวดการทองปากช่องที่ 1, รองผู้กำกับการ สภ.หนองสาหร่าย และตัวแทนผู้ประกอบการร้านอาหารบริเวณมอปลาย่างกว่า 20 ราย

ทั้งนี้ภายหลังจากเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 57 ที่ผ่านมา นายจักริน เชิดฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจังหวัดนครราชสีมา ได้ทำการยื่นหนังสือให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อส่งเรื่องต่อให้กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำสัญญาเช่าที่หลวงเพื่อให้ผู้บุกรุกทำกิจการร้านอาหาร บริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง หรือมอปลาย่าง จำนวน 51 ราย ซึ่งมีเนื้อที่สาธารณะถูกบุกรุกกว่า 5,800 ไร่ อันส่งผลให้เกิดมลภาวะต่อลำตะคอง และผู้เช่าถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดไปแล้ว จนทำให้จังหวัดนครราชสีมา ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อแก้ไขปัญหาครั้งนี้ใหม่อีกครั้ง

โดยนายธวัชชัย เปลี่ยนศรี ธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา รายงานในที่ประชุมว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ทางสำนักงานธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา ร่วมกับกรมชลประทาน ได้ทำการตรวจสอบจัดทำแนวเขตใหม่ พบว่ามีผู้บุกรุกทั้งสิ้นจำนวน 70 ราย มีเนื้อที่ถูกบุกรุกกว่า 23 ไร่ ซึ่งเป็นร้านอาหารบริเวณมอปลาย่าง ตั้งอยู่ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 188 – 188+800 จึงได้ส่งเรื่องให้คณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ดินราชพัสดุทราบ ซึ่งคณะทำงานฯ ได้มีออกมา 3 ข้อ ได้แก่ 1.ให้ยกเลิกการประกอบกิจการร้านอาหารเหล่านั้นทั้งหมด, 2.ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง บริเวณร้านอาหาร ริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง และจัดระเบียบพื้นที่ในการประกอบกิจการร้านอาหารใหม่, 3.ให้ยกเลิกการประกอบกิจการร้านอาหารบริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคอง และจัดหาพื้นที่ใหม่รองรับ ซึ่งธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา ได้เสนอที่ราชพัสดุบริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง เนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ ซึ่งอยู่บริเวณสถานีวิจัยลำตะคองให้เช่าทำร้านใหม่แทน

ขณะที่นายสมหวัง ดินขุนทด เจ้าของร้านอาหารครัวน้ำหวาน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคอง หรือมอปลาย่าง ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า การที่มีผู้ร้องเรียน คสช.ว่าพวกตนเป็นนายทุนบุกรุกพื้นที่ของรัฐกว่า 5,800 ไร่ เพื่อทำร้านอาหารนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะผู้ที่ประกอบการร้านอาหารทุกคน ล้วนเป็นชาวบ้านในพื้นที่ทั้งนั้น อีกทั้งพื้นที่ซึ่งขอเช่าก็มีเพียง 18 ไร่ ไม่ใช่ 5,800 ไร่ ตามที่ถูกกล่าวอ้าง เพราะหากพวกตนมีพื้นที่ครอบครองมากถึงขนาดนั้น ก็คงจะไม่มาทำร้านอาหาร คงจะต้องทำเป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงร้านอาหารที่ทำอยู่ในปัจจุบัน แต่จะรายมีไม่ถึง 1 ไร่ด้วยซ้ำ ส่วนที่ร้องเรียนว่าร้านอาหารของพวกตนเป็นต้นเหตุการปล่อยน้ำเสียลงลำตะคองนั้น ก็ไม่เป็นความจริงอีก เพราะทุกร้านมีระบบบำบัดน้ำเสียแล้ว ข้อเท็จจริงเรื่องนี้คือน้ำเสียถูกปล่อยมาจากพื้นที่อำเภอปากช่อง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบให้แน่ชัด แต่หาก อบต. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการให้มีการออกแบบพื้นที่ตั้งร้านค้าใหม่ เพื่อไม่ให้บดบังทัศนียภาพของลำตะคอง พวกตนก็พร้อมจะให้ความร่วมมือด้วยดี

ด้านนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยในที่ประชุมว่า เรื่องนี้มีความยืดเยื้อมากว่า 20 ปีแล้ว ดังนั้นจึงต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด ในเมื่อผู้เช่ารู้ตัวเองอยู่แล้วว่าทำผิดกฎหมาย ก็ไม่มีสิทธิ์มาต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นในวันนี้ขอให้ตัวแทนผู้ประกอบการ ได้เตรียมทำการรื้อถอนสิ่งก่อสร้าง และร้านอาหารต่างๆ ออกให้หมด และตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เมื่อธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมาคนใหม่ เข้ามาดำรงตำแหน่งแทนคนเดิมที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็พร้อมที่จะจัดระบบทำงานเพื่อดำเนินการรื้อถอนอย่างเข้มงวด ตนไม่อยากให้เรื่องนี้ยืดเยื้อไปถึงปีหน้า เพราะตนก็จะเกษียณในปีหน้าแล้ว ดังนั้นจึงอยากทำให้แล้วเสร็จภายในสมัยของตน นอกจากเรื่องมอปลาย่างแล้ว ยังต้องดำเนินการต่อผู้บุกรุกที่ดินของรัฐอีกหลายแห่ง

อาทิ ในพื้นที่ อ.ปากช่อง และ อ.วังน้ำเขียว ซึ่งต้องมีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน และตรงไปตรงมา ทั้งนี้ตนขอเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ของรัฐ หากใครก็ตามที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ต้องมีความผิดตามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ


ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : ผวจ.สั่งรื้อร้านอาหารมอปลาย่างลำตะคอง

view