จากประชาชาติธุรกิจ
เงิน สะพัดทะเลสาบสงขลา กุ้งก้ามกราม " จัมโบ้" ราคาพุ่งกระฉูด 800 บาท / กก. ชาวพัทลุงทิ้งสวนยางราคาถูก ลงทะเลหารายได้ทดแทนราคายางตกต่ำ
ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจ รายงานข่าวจากสถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งสงขลาว่า การทำประมงรอบทะเลสาบสงขลาในเดือนกรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสงขลาและพัทลุง สามารถจับสัตว์น้ำได้เป็นจำนวนมากและจำหน่ายได้ราคาสูง เช่น กุ้งก้ามกราม กุ้งกุลาดำ กุ้งหัวแข็งใหญ่ กุ้งหัวแข็งเล็ก ปลาดุกทะเล ปลาช่อน ปูม้า ฯลฯ
สำหรับพื้นที่ในทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุงก็สามารถจับกุ้งก้ามกรามได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกุ้งก้ามกราม ขนาดจัมโบ้ ราคาจำหน่ายสูงถึงกิโลกรัมละ 800 บาท ซึ่งในช่วงนี้ชาวสวนยางพาราไม่ออกกรีดยาง เนื่องจากได้น้ำยางน้อย ราคาตกต่ำและขาดทุนมาก จึงหันมาออกทะเลแทน โดยมีรายได้เสริมจากการจับกุ้งชดเชยการกรีดยางพารา
ชาวประมงรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตอนนี้ชาวประมงมีรายได้จากการจำหน่ายกุ้ง ปู และปลา คนละประมาณ 3,00 – 4,000 บาท หากเป็นช่วงหน้าฝนบางรายจะมีรายได้ถึง 20,000 – 30,000 บาท /วัน
" ตอนนี้สัตว์น้ำมีราคาดีมาก เช่น ปลาขี้ตัง 300 – 400 บาท /กก. กุ้งหางแดง 250 บาท / กก. กุ้งขาว 140 บาท / กก. กุ้งหัวมัน 100 บาท / กก. กุ้งเล็กหัวแข็ง 60 บาท / กก. จับได้เท่าไหร่ก็ไม่พอขาย เพราะมีการส่งออกไปมาเลเซียด้วย ทำให้เศรษฐกิจรอบ ๆ ทะเลสาบสงขลา อยู่ในเกณฑ์ที่ดี”
นายประพร เอกอุรุ นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ชาวประมงทะเลสาบสงขลา มีรายได้จากการทำประมงในทะเลสาบสงขลาประมาณเดือนละ 30,000 - 40,000 บาท / เดือน
ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต