จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรลงพื้นที่ทุบโต๊ะแก้ปัญหาลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้ข้อสรุปราคา ประกาศจันทร์นี้
นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นประธานในการประชุมแก้ไขปัญหาลำไยในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาราคาลำไยสดรูดร่วงตกต่ำ โดยมีนายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นายนายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายชาตรี บุญนาค ผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเกษตรกรชาวสวนลำไย ผู้ประกอบการลำไย รวมทั้งพาณิชย์จังหวัด 8 จังหวัดภาคเหนือ และตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้ง 8 จังหวัดภาคเหนือร่วมในการประชุม
นายโอฬาร กล่าวว่า ได้รับฟังข้อคิดเห็นจากตัวแทนกลุ่มเกษตรกรชาวสวนลำไยและล้งผู้รับซื้อผลผลิต พร้อมกับหารือกับทั้งสองกลุ่มในสองประเด็นใหญ่ๆ คือล้งที่ไม่มาจะดำเนินการตามข้อตกลงหรือไม่ และทำอย่างไรให้มีการซื้อขายในราคาที่เหมือนกันทุกที่ ระหว่างที่ทางตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ก็ประสบปัญหาและเดือดร้อน ทางล้งก็ไม่สามารถรับซื้อในราคาที่ตกลงได้
"ขณะนี้ผลผลิตลำไยที่ออกสู่ท้องตลาดไปแล้วประมาณร้อยละ 84 คงเหลืออยู่เพียงแค่ร้อยละ 16 เท่านั้น แต่ราคาลำไยยังคงตกต่ำอยู่ไม่เป็นไปตามกลไกตลาดตามปกติ ทั้งที่สินค้ามีจำนวนน้อยน่าจะยิ่งมีราคาสูงขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาได้มีการกำหนดราคาซื้อขายลำไยอย่างตายตัวแล้วก็ตามแต่ยังพบปัญหาซื้อขายไม่ตรงตามราคาที่กำหนดไว้" นายโอฬาร กล่าว
นายโอฬาร กล่าวอีกว่า ในการประชุมหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในวันนี้ ได้บทสรุปจากมติในที่ประชุมว่า กระทรวงพาณิชย์จะประกาศใช้ราคารับซื้อที่หน้าโรงงาน เกรด AA ราคา 17 บาท เกรด A ราคา 7 บาท เกรด B ราคา 4 บาท และราคารับซื้อที่หน้าจุดร่อนเกรด AA ราคา 16 บาท เกรด A ราคา 6 บาท เกรด B ราคา 3 บาท และประกาศให้ใช้ราคาเดียวกันทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ คือ วันที่ 23 สิงหาคมเป็นต้นไป โดยจะประกาศอย่างเป็นทางการมีลายลักอักษร วันจันทร์ ที่ 25 สิงหาคมนี้ ซึ่งระบุผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมเป็นต้นไป
สำหรับในกรณีที่พบหรือมีการให้ข้อมูลจากเกษตรกรว่ามีผู้ประกอบการรายใดที่ไม่รับซื้อลำไยตามราคาแนะนำดังกล่าวหรือหยุดรับซื้อโดยไม่มีเหตุผล ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจข้อมูลและบัญชีการซื้อขายของผู้ประกอบการรายนั้นในเชิงลึกและอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งลงโทษตามกฎหมายหากพบว่ามีการกระทำความผิด อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าทางผู้ประกอบการทุกรายจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะเวลานี้ทั้งภาคเหนือเหลือลำไยที่จะออกสู่ท้องตลาดอีกประมาณ 70,000 ตัน หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 16 ของผลผลิตทั้งหมดเท่านั้น ในจำนวนนี้เป็นของจังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 30,000 ตัน
ด้านนายประเทือง คงรอด แกนนำองค์กรเครือข่ายผู้ปลูกและผลิตลำไยภาคเหนือ กล่าวว่า เบื้องต้นข้อตกลงดังกล่าวถือว่าเป็นที่ยอมรับได้ ที่จะมีการนำกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์มาบังคับใช้ให้มีการรับซื้อลำไยในราคาดังกล่าวนี้เหมือนกันหมดทุกพื้นที่ แม้ว่าจะเป็นเพียงการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้เพียงเล็กน้อยก็ตาม เพราะขณะนี้เหลือลำไยให้ชาวสวนเก็บนำออกมาขายได้อีกไม่มากแล้วก็จะสิ้นสุดช่วงเก็บเกี่ยวของปีนี้
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,อะไหล่ victorinox,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit