จาก คมชัดลึกออนไลน์
ม.เชียงใหม่ประสบความสำเร็จในการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของลิ้นจี่ ในการใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อปกป้องตับและมีฤทธิ์ต้านการอักเสบแก้ปวด
5 มี.ค.55 ศ.พญ.เลิศลักขณา ภู่พัฒน์ อาจารย์ประจำภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และคณะผู้วิจัย เปิด เผยว่า งานวิจัยดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณค่าทางอาหารของลิ้นจี่สาย พันธุ์ที่นิยมบริโภคคือพันธุ์กิมเจ็งและจักรพรรดิในการใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยทำการศึกษาฤทธิ์ในการปกป้องตับ ฤทธิ์ ต้านการอักเสบ แก้ปวด และฤทธิ์ของลิ้นจี่ต่อเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ด้วยวิธีทางภูมิคุ้มกันของลิ้นจี่ทั้งสองสายพันธุ์ในสัตว์ทดลอง
ผลการศึกษาพบว่าสารสกัดที่ได้จากเนื้อลิ้นจี่สดทั้งสองสายพันธุ์ประกอบด้วย วิตามินซีและกลุ่มสารโพลีฟีนอลซึ่งสารประกอบทั้งสองมีคุณสมบัติต้านอนุมูล อิสระได้และเมื่อใช้สารสกัดลิ้นจี่ทั้งสองสายพันธุ์ทดสอบกับรูปแบบการทดลอง พบว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและสามารถนำสารสกัดลิ้นจี่ไปเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้ โดยสามารถป้องกันพิษต่อตับ ซึ่งมีการทดลองในหนูขาวแล้วว่าปลอดภัย
"สารสกัดลิ้นจี่กิมเจ็งและจักรพรรดิ นั้นมีคุณค่าทางอาหารและมีสารประกอบที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ที่อุดมด้วยวิตามินเอ วิตามินซี และมีสารประกอบฟีนอลิกและสารพฤกษาเคมีที่มีบทบาทเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ แอนติอะพอพโตสิส เหมาะสมที่จะนำไปพัฒนา หรือใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อปกป้องการทำลายและการอักเสบของตับจากสารพิษได้" ศ.พญ.เลิศลักขณา กล่าว
การเลี้ยงไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,ไส้เดือนดิน,รักษ์ดิน,ฮิวมิคพลัส,มูลไส้เดือนดิน,ปุ๋ยหมัก