จาก ไทยรัฐออนไลน์
"พาณิชย์" เผย ความเชื่อมั่น ก.พ.55 กระเตื้องเล็กน้อยที่ 25.8 หลังฟื้นน้ำท่วม แต่ประชาชนห่วงราคาน้ำมันฉุดข้าวของแพงขึ้น พารัดเข็มขัดงดซื้อของฟุ่มเฟือย เครื่องไฟฟ้า รถยนต์ แนะรัฐคุมพลังงาน สินค้าต่อ
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน ก.พ.55 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวม อยู่ที่ 25.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 24.2 โดยแยกเป็นความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อสถานการณ์ปัจจุบัน 15.7 เพิ่มจาก 14.6 และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่ออนาคต (3 เดือน) ที่ 32.6 เพิ่มจาก 30.6 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นทุกรายการ หลังจากเศรษฐกิจได้ฟื้นจากภาวะน้ำท่วม และมีการเบิกจ่ายงบประมาณเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมของภาครัฐสู่ระบบ รวมทั้งรัฐบาลยังมีนโยบายดูแลรายได้เกษตรกรผ่านโครงการรับจำนำข้าวเปลือก และมันสำปะหลัง
ส่วนดัชนีการคาดหวังต่อรายได้อนาคตในเดือน ก.พ.55 อยู่ที่ 50.3 เพิ่มจาก 48.1 เป็นผลจากนโยบายการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการเดือน ม.ค. และการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ที่จะเริ่มในเดือน เม.ย.นี้ ขณะที่ภาคเกษตรกรมีรายได้เพิ่มจากการเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังตันละ 15,000 บาท และการจำนำมันสำปะหลัง แต่โอกาสในการหางานปัจจุบันและอนาคตยังมีระดับต่ำ เพราะประชาชนยังกังวลเศรษฐกิจภายใน
ด้านความเชื่อมั่นการใช้จ่าย สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในปัจจุบันและอนาคตยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นสิ่งของจำเป็น แม้ราคาสินค้าจะปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิตและการขนส่งที่เพิ่มจากราคา น้ำมัน แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการวางแผนซื้อรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าคงทนอื่นๆ ใน 6 เดือนข้างหน้ายังลดลง สู่ระดับต่ำ เนื่องจากประชาชนไม่มั่นใจการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยราคาแพง ประกอบกับกังวลปัญหาปากท้องและค่าครองชีพที่ยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง
“ปัจจัย บวกที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตช่วงเดือน มี.ค.55 มาจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ รวมถึงการฟื้นฟูความเชื่อมั่นจากสถานการณ์น้ำท่วมของรัฐบาล ส่วนปัจจัยลบมาจากภายนอก ซึ่งกระทรวงฯ ควบคุมไม่ได้ ทั้งจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะหนี้สาธารณะในยุโรป ความผันผวนจากราคาน้ำมันในตลาดโลก และความขัดแย้งทางการเมืองในตะวันออกกลาง รวมถึงการปรับขึ้นค่าเอฟทีในรอบถัดไป”
สำหรับสิ่งที่ประชาชนคาดหวัง ให้รัฐบาลช่วยดูแลและแก้ไขเป็นการด่วน อันดับแรกราคาพลังงาน เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาวัตถุดิบและราคาสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงอาหารปรุงสำเร็จที่มีราคาแพง รองลงมาเป็นการแก้ปัญหาว่างงาน และเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ การหามาตรการปล่อยสินเชื่อแบบผ่อนคลายเพื่อช่วยเหลือประชาชน และการปรับปรุงโครงสร้างการผลิต การลงทุน ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยว
การเลี้ยงไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,ไส้เดือนดิน,รักษ์ดิน,ฮิวมิคพลัส,มูลไส้เดือนดิน,ปุ๋ยหมัก
