จาก ไทยรัฐออนไลน์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ ครม.คณะที่ 4 (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธาน เห็นชอบความช่วยเหลือและแก้ไขความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยให้นำเงินจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย และกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาเพิ่มค่าอ้อยอัตราตันอ้อยละ 154 บาท โดยให้จ่ายตรงให้กับชาวไร่อ้อยทุกตันอ้อย ที่ส่งเข้าหีบในโรงงานน้ำตาลทรายฤดูกาลผลิตปี 54/55 รวมถึงเห็นชอบให้คงการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายในประเทศอีกกิโลกรัม (กก.) ละ 5 บาท ตามมติ ครม.วันที่ 29 เม.ย.51 และให้นำเงินจากส่วนที่ปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย มาเป็นรายได้ของกองทุนฯ ในการชำระหนี้เงินกู้เพื่อเพิ่มค่าอ้อยให้กับชาวไร่อ้อย
อย่างไรก็ ตาม แม้สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ แต่มีความเห็นเพิ่มเติม ให้อุตสาหกรรมเร่งจัดทำแผนการชำระหนี้ โดยกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน และยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนอ้อยฯ ที่มาจากการขึ้นราคาจำหน่ายน้ำตาลทราย กก.ละ 5 บาท หลังจากกองทุนฯ ชำระหนี้เงินกู้ในครั้งนี้แล้วเสร็จ
นาย กิตติรัตน์ กล่าวว่า จะเสนอแนวทางให้ความช่วยเหลือและแก้ปัญหาเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย ให้ที่ประชุม ครม.สัญจร ที่จ.อุดรธานี วันนี้ (22 ก.พ.) พิจารณาเห็นชอบ และเร่งรัดให้สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้แล้วเสร็จในสิ้น เดือน มิ.ย.นี้ เพื่อรองรับฤดูการหีบอ้อยเดือน ต.ค.นี้.
การเลี้ยงไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,ไส้เดือนดิน,รักษ์ดิน,ฮิวมิคพลัส,มูลไส้เดือนดิน,ปุ๋ยหมัก