จาก คมชัดลึกออนไลน์
กรมชลฯ เร่งระบายน้ำ ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ บริเวณประตูระบายน้ำตามคลองต่าง ๆ ทำให้น้ำลดระดับลงต่อเนื่อง คาด 7 วัน สวนโผล่พ้นน้ำให้เกษตรกรเข้าฟื้นฟูได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.54 นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาสลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การระบายน้ำทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก พร้อมด้วย นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และผู้บริหารกรมชลประทานว่า ตามที่กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทานได้เร่งรัดดำเนินมาตรการลดปริมาณน้ำเหนือ และเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ขณะนี้แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำลดลง ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่ทุ่งฝั่งตะวันตก บริเวณทุ่งเจ้าเจ็ด-บางยี่หน , ทุ่งพระยาบันลือ และทุ่งพระพิมล ลดลงตามไปด้วย นอกจากนี้กรมชลประทานยังได้เร่งระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันตกออกสู่ทะเล โดยเร่งระบายน้ำลงแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแม่น้ำท่าจีนที่มีสภาพลำน้ำที่คดเคี้ยว
กรมชลประทานได้เร่งการระบายน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น ด้วยการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณประตูระบายน้ำตามคลองต่าง ๆ ในแม่น้ำท่าจีน อาทิ คลองโยง , คลองมหาสวัสดิ์ โดยคลองโยง มีประตูระบายน้ำ กว้าง 6 เมตร จำนวน 2 ช่อง มีสถานีสูบน้ำถาวร 8 เครื่อง และได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ขนาด 3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที 2 เครื่อง และขนาด 12 นิ้ว รวม 3 เครื่อง รวมระบายน้ำได้วันละประมาณ 2.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ระดับน้ำในคลองโยง ลดลง 30 เซนติเมตร และแนวโน้มจะลดลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับคลองมหาสวัสดิ์ มีประตูระบายน้ำ กว้าง 6 เมตร จำนวน 1 ช่อง มีประตูน้ำ กว้าง 6 เมตร จำนวน 1 แห่ง มีสถานีสูบน้ำถาวร 4 เครื่อง พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ขนาด 3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที 3 เครื่อง และขนาด 12 นิ้ว รวม 3 เครื่อง รวมระบายน้ำได้วันละประมาณ 1.8 ล้านลูกบาศก์เมตร และเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้รวดเร็วยิ่งขึ้น กรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณประตูน้ำ ขนาด 3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเพิ่มเติมอีก 3 เครื่อง ทำให้สามารถระบายน้ำได้ถึงวันละประมาณ 2.8 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองมหาสวัสดิ์ ลดลง 40 เซนติเมตร และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
นายธีระ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากการระบายน้ำในภาพรวมแล้ว ปัจจุบันกรมชลประทานยังได้เข้าไปเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระดับพื้นที่คือ การระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง ทั้งในเขตชุมชน และพื้นที่การเกษตร โดยทำการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินงานทำคันกั้นน้ำด้วยกระสอบทราย และติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายน้ำออกจากพื้นที่ โดยในพื้นที่เกษตรที่เป็นสวนส้มโอ ตำบลทรงคะนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม กรมชลประทานได้บูรณาการร่วมกับภาคประชาชน และองค์กรท้องถิ่น นำเครื่องจักร เครื่องมือ ทำคันกั้นตามแนวถนน ความยาวประมาณ 6 กิโลเมตร และติดตั้งเครื่องสูบน้ำสนับสนุนภารกิจ จำนวน 31 เครื่อง ประกอบด้วยเครื่องสูบน้ำขนาด 3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที 1 เครื่อง , ขนาด 12 นิ้ว 2 เครื่อง , ขนาด 10 นิ้ว และ 8 นิ้ว รวม 28 เครื่อง เพื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่ลงสู่แม่น้ำจีน สามารถระบายน้ำได้วันละ 5.5 แสนลูกบาศก์เมตร และเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำท่วมขังให้รวดเร็วยิ่งขึ้น กรมชลประทานจะติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว เพิ่มเติมอีก 10 เครื่อง ทำให้สามารถระบายน้ำได้ถึงวันละ 6.8 แสนลูกบาศก์เมตร
ดังนั้นจากมาตรการดังกล่าวคาดว่า ในอีก 1 สัปดาห์ ร่องสวนก็จะโผล่พ้นน้ำ ซึ่งเกษตรกรจะสามารถเข้าทำการฟื้นฟูสวนส้มโอของตนเองได้ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้วางกรอบแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกไม้ผลไม้ยืนต้น และพืชผักที่ได้รับความเสียหายที่คาดว่าจะมีจำนวนทั้งสิ้น 50,000 ราย เป็นพื้นที่ 0.46 ล้านไร่ โดยเกษตรกรได้รับเงินสดช่วยเหลือเป็นมูลค่า 7,300 บาท แบ่งเป็น ค่าพันธุ์ไม้ผล และเมล็ดพันธุ์ผัก 5,000 บาทต่อราย ค่าเตรียมพื้นที่เพาะปลูก 2,000 บาท และค่าสนับสนุนการปลูกพืชบริโภคครัวเรือน 300 บาทต่อราย
................................
(หมายเหตุ : ภาพแฟ้มข่าว)
การเลี้ยงไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,ไส้เดือนดิน,รักษ์ดิน,ฮิวมิคพลัส,มูลไส้เดือนดิน,ปุ๋ยหมัก
