จาก โพสต์ทูเดย์
ในหลวงตั้งมูลนิธิน้ำแก้ขาดแคลนทรงแนะปลูกหญ้าแฝก-ต้นไม้มีรากแก้วป้องกันปัญหาหน้าดินถล่ม
ภาพ สำนักพระราชวัง
เมื่อเวลา 17.41 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จออก ณ ห้องประชุม สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการกิตติมศักดิ์ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร นำคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน เป็นทุนประเดิมสำหรับการก่อตั้งมูลนิธิน้ำ
โดย สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร องค์การมหาชน ก่อตั้งขึ้นเพื่อสนองพระราชดำริเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ เนื่องในโอกาสงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงครองสิริราชสมบัติ ได้ทรงงานเรื่องน้ำมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยทรงห่วงใยพสกนิกรที่ประสบปัญหาเรื่องน้ำ ได้แก่ การขาดแคลนน้ำ ปัญหาน้ำท่วม น้ำเน่าเสีย เป็นต้น ทั้งทรงห่วงใยการบริหารจัดการน้ำ ตลอดจนส่งห่วงสถานการณ์น้ำที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
ทั้ง นี้ ทรงศึกษาระบบการจัดการน้ำที่เหมาะสมกับประเทศไทย ด้วยพระองค์เอง เช่น โครงแก้มลิง โครงการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีทางธรรมชาติ และทรงมีแนวพระราชดำริต่างๆ จำนวนมาก เพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาเกี่ยวกับน้ำที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ ของราษฎร กล่าวได้ว่า ความสำเร็จ ความรู้ และกลวิธีต่างๆ ที่ได้จากการทรงศึกษา ค้นคว้า พัฒนา และทดลอง หากนำมารวบรวมบันทึก และเผยแพร่ให้ประชาชนนำไปใช้เป็นหลักในการแก้ไขปัญหา พัฒนา บริหารน้ำของท้องถิ่น และของประเทศ จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง
สำหรับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ มีหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และได้เห็นความสำคัญของการรวบรวม และจัดทำข้อมูลความรู้เรื่องน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่จะนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจบริหารจัดการน้ำเพื่อเผย แพร่ให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณชน ตลอดจนส่งเสริม สนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาสำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ที่สำคัญคือ ส่งเสริม สนับสนุนให้มีหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนตามแนวพระราช ดำริ
ในการนี้ได้มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการเลือกชนิดพืชที่จะปลูกในพื้นที่ภูเขา เพื่อป้องกันการพังทลายของดิน
"ถล่ม ลงมาแล้วทำให้หมู่บ้าน ทางหมู่บ้านไปหมด ที่มาทูลตั้งแต่ต้น นี่มันเป็นปัญหาที่หนักมาก เพราะว่าทำให้คนเสียชีวิต และเสียหมู่บ้านเป็นอย่างมาก มาเร็วๆ ที่กระบี่ ก็มีถล่มอย่างนี้ แต่ที่สตูลหนักมาก ที่กระบี่ ก็มีถล่มอย่างนี้ และที่สตูลนั่นหนักมาก ที่กระบี่ก็ถล่มลงมา ทำให้เสียชีวิตไปหลาย กราบทูล- หน้าดินก็เสียหมดพุทธเจ้าค่ะ กว่าจะฟื้นมาได้ใช้เวลาอย่างมาก"
"ถ้า โครงการอย่างนี้แล้วก็ กลับทำให้มีความเสียหาย น่ากลัว อย่างที่สตูล เป็นเพราะว่าไปปลูกยาง ก็ดูท่าทางยางเป็นต้นที่โตเร็ว ที่แข็งแรง มันโตเร็วจริงๆ แต่ว่าทำให้มีหวังเป็น ถล่ม ดินถล่มมากมาย ที่ภาคอีสานไปปลูกยาง นึกว่าเป็นผลที่ดี แต่ก็ดินถล่มเยอะ ที่ภาคเหนือก็มี เฉลี่ยการดินถล่ม จะทำให้ชาวบ้านเสียหายมาก นี่ก็ต้องปลูกรักษาให้ดี เรื่องต้นที่จะลง แต่ถ้าต้น ลงต้น ที่ต้นไม้ที่มีรากแก้ว ที่ก็โตไม่เร็ว โตช้า เพราะอาจจะมีผลตรงข้ามเหมือนกัน เพราะการปลูกต้นไม้พืชหรือพืชอะไรต้องเลือก เมื่ออย่างตะกี้พูดถึงว่า เอาหญ้าแฝกลง รากแฝกนี้ลงลึก เหมือนเป็นรากแก้ว ก็อาจจะแก้ได้ แต่ไม่ทราบว่า จะมีผลหรือเปล่า ใส่หญ้าแฝกเป็นแนวอย่างไร หรือต้นไม้ที่เป็นต้นไม้มีรากแก้ว หรือต้นไม้ที่โตเร็ว ต้องสลับกันดีๆ อาจจะแก้ปัญหาเรื่องดินถล่ม"