จาก โพสต์ทูเดย์
สธ.หวังรักษาทันการณ์ติดโรคแนะอย่ากินไส้สัตว์เป็นที่อยู่เชื้อ
สธ.แจกคู่มืออีโคไล 13 สายการบินยุโรป แนะเลี่ยงกินไส้สัตว์ซึ่งเป็นที่อยู่ของเชื้อ ด้านปศุสัตว์ตรวจเข้มเนื้อสัตว์จากยุโรป
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สนามบินสุวรรณภูมิประสานสายการบินที่เดินทางมาจากยุโรป 13 ประเทศ ได้แก่ เยอรมนี ออสเตรีย สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และลักเซมเบิร์ก เพื่อแจกจ่ายเอกสารคำแนะนำเรื่องการติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไลชนิดรุนแรง โอ 104 แก่นักท่องเที่ยว
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ. กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังนายแพทย์สาธารณสุขทุกจังหวัด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการระบาดของเชื้ออีโคไล ได้แก่ 1.เฝ้าระวังผู้ป่วยโดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติเดินทางจากทวีปยุโรป 2.เร่งประชาสัมพันธ์ 3.กำชับให้แพทย์ดูแลผู้ป่วยอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเหมาะสม
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ได้เปิดสายด่วนสำหรับให้บริการประชาชนในเรื่องโรคอุจจาระร่วงตลอด 24 ชั่วโมง ที่หมายเลข 02-590-3333 และ 1422
นพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา คร. กล่าวว่า ตามปกติเชื้ออีโคไลจะอยู่ในลำไส้ของคนและสัตว์อยู่แล้ว แต่ที่กำลังเป็นปัญหาคือสายพันธุ์ใหม่ซึ่งสร้างสารพิษได้ หากสัตว์กินพืชที่ปนเปื้อนเชื้ออีโคไล เชื้อก็จะไปสะสมอยู่ในลำไส้และขับถ่ายเชื้อออกมาทางอุจจาระ ดังนั้นหากประชาชนไม่ได้สัมผัสกับอุจจาระสัตว์ หรือบริโภคลำไส้สัตว์ที่มีเชื้อ ก็จะไม่เป็นอันตรายใดๆ
“แม้สัตว์จะกินพืชที่มีเชื้ออีโคไลมา แต่หากเรารับประทานเฉพาะเนื้อสัตว์โดยไม่รับประทานลำไส้ ก็จะไม่เกิดอันตราย” นพ.ภาสกร กล่าว
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ คร. กล่าวว่า คนจะติดเชื้อได้ 2 ทาง คือ 1.บริโภคเนื้อสัตว์ที่ปนเปื้อนอุจจาระและปรุงไม่สุก และ 2.บริโภคผักที่ปนเปื้อนอุจจาระในน้ำ อย่างไรก็ตาม ความร้อน 70 องศาเซลเซียสสามารถฆ่าเชื้อได้
“แน่นอนว่าการประกอบอาหารเนื้อสัตว์ย่อมปนเปื้อนกับเครื่องใน ดังนั้นถ้าเราปรุงเนื้อสัตว์ให้สุกก็จะยิ่งปลอดภัยจากเชื้ออีโคไล” นพ.คำนวณ กล่าวนายปรีชา สมบูรณ์ประเสริฐ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมปศุสัตว์ได้ตรวจเข้มเนื้อสัตว์ที่ได้มีการนำเข้าจากประเทศที่พบ เชื้ออีโคไลที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผลจากการตรวจสอบของห้องปฏิบัติการยังไม่พบเชื้อดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้มีการสุ่มตัวอย่างให้เข้มข้นมากขึ้น นอกจากนั้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปดูว่าสินค้าปศุสัตว์นอกจากเนื้อสดแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ที่มีวัตถุดิบจากสัตว์ในกลุ่มใดที่ยังมีความเสี่ยงที่ต้องจับ ตาอีกเพื่อจะได้เพิ่มระมัดระวังให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันเชื้อดังกล่าวคือการปรุงสุกทั้งผักและเนื้อสัตว์ เพราะนอกจากอีโคไร 104 แล้ว เชื้ออีโคไลมีหลายสายพันธุ์และพบได้ทั่วไป เช่นในไทยก็มีแต่ไม่อันตรายเท่ากับ สายพันธุ์104ที่พบในยุโรป “ ขณะนี้มีคนร้องเรียนเข้ามาเหมือนกันว่าตลาดสดในหลายพื้นที่สกปรก เขียงหรือร้านชำแหละ ไม่สะอาด กองเนื้อสัตว์ หรือชำแหละตัดแต่งเนื้อสัตว์กันบนฟุตบาทบ้าง ในห้องแถวที่ไม่สะอาดบ้าง เช่นตลาดพรานนก ตลาดคลองเตย อยากให้กรมปศุสัตว์เข้าไปตรวจ ซึ่งในเรื่องนี้จะได้ประสานกทม.ในฐานะเจ้าของท้องที่เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งในเรื่องนี้ก็ขอให้ประชาชนใช้มาตรการทางสังคมช่วยกดดันด้วยเพื่อที่จะ ได้มีตลาดสดที่สะอาดในพื้นที่ของตนเอง “นายปรีชากล่าวกรมปศุสัตว์ระยุยังไม่พบอีโคไรในเนื้อสัตว์นำเข้า เตือนประชาชนควรเลือกซื้อ เนื้อสัตว์จากเขียงที่สะอาด เผยประชาชนร้องตรวจสอบ ร้านชำแหละเนื้อสัตว์ ย่านพรานนก คลองเตย สกปรก