สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พิษ ลานิญา ทำผลไม้เหนือ-ใต้วูบ ลิ้นจี่เหนือผลผลิตหาย-สศก.ชี้ผู้บริโภคกินของแพง

จาก ประชาชาติธุรกิจ





สภาวะอากาศแปรปรวน-ปรากฏการณ์ลานิญากระทบผล ผลิตลิ้นจี่ภาคเหนือลดวูบ เชียงใหม่มีเพียง 1.4 หมื่นตัน เชียงราย 1.1 หมื่นตัน ดันราคาสูงขึ้นเท่าตัว สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรระบุสถานการณ์ราคาผลไม้ปี"54 มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะภาคใต้ผลผลิตหายไปกว่า 44% ผลพวงจากน้ำท่วม ฝนตกหนัก



นาง นารีณัฐ รุณภัย รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า สถานการณ์ผลผลิตผลไม้ของประเทศไทยประจำปี 2554 ราคาผลไม้มีแนวโน้มจะสูงขึ้นกว่าปี 2553 เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์ลานิญา ซึ่งมีฝนตกมากกว่าปกติ ทำให้แตกใบอ่อนแทน เช่น ปริมาณผลผลิตลิ้นจี่ใน 4 จังหวัดสำคัญทางภาคเหนือมีประมาณ 32,049 ตัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 17 ส่วนผลผลิตโดยรวมของทุเรียนทั้งประเทศจำนวน 344,089 ตัน มังคุด 111,122 ตัน เงาะ 237,592 ตัน และลองกอง 66,054 ตัน

สำหรับภาคใต้ นอกจากเจอปรากฏการณ์ลานิญาแล้วยังประสบปัญหาขาดแคลนเงินทุน แรงงาน และอุทกภัยครั้งใหญ่ ทำให้ผลไม้ภาคใต้ลดลงเหลือเพียง 306,352 ตัน หรือลดลงร้อยละ 44 ทำให้ราคาผลไม้มีแนวโน้มจะสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว

นาย สุภัทร สุปรียธิติกุล เกษตร จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ผลผลิตลิ้นจี่ของจังหวัดเชียงใหม่ในฤดูกาลผลิตปี 2554 มีปริมาณผลผลิตลดลงประมาณ 10% ปัจจัยสำคัญเกิดจากอากาศที่แปรปรวน ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะมีฝนตกในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2553 ทำให้ลิ้นจี่แตกใบอ่อน ซึ่งโดยธรรมชาติ ของลิ้นจี่จะชอบอากาศหนาว สาเหตุ ดังกล่าวส่งผลให้ลิ้นจี่ในฤดูกาลนี้ลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10%

สำหรับ จังหวัดเชียงใหม่มีแหล่งปลูกที่สำคัญ ได้แก่ อำเภอฝาง ไชยปราการ แม่อาย แม่แตง และแม่ริม มีเนื้อที่ยืนต้น 57,222 ไร่ เนื้อที่ให้ผล 50,480 ไร่ คาดว่าจะมีผลผลิต 14,033 ตัน ลดลงจากปี 2553 ประมาณ 2,019 ตัน คิดเป็นร้อยละ 12.58 โดยมีผลผลิตเฉลี่ย 278 กิโลกรัม/ไร่

นายสุภัทร กล่าวว่า ปริมาณลิ้นจี่น้อยลงทำให้ราคาสูงขึ้น เช่น ราคาขาย ณ จุดรับซื้อหน้าสวน เกรด AA กิโลกรัมละ 32-35 บาท แต่ราคาขายปลีกอาจจะเพิ่มขึ้นอีก และในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดอีกช่วงหนึ่ง

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะอนุกรรมการ ป้องกันแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคเหนือ ได้ประเมินสถานการณ์ผลผลิตลิ้นจี่ว่า ผลผลิตลิ้นจี่จะออกสู่ตลาดและกระจุกตัวตั้งแต่กลางเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2554 ซึ่งตรงกับผลผลิตผลไม้จากภาคตะวันออก เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ออกสู่ตลาดเช่นเดียวกัน ซึ่งอาจทำให้ราคาตกต่ำได้ ขณะที่ผู้แทนสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทยแจ้งว่า ช่วงดังกล่าวผลผลิตลิ้นจี่ของประเทศจีนเริ่มออกสู่ตลาดจะมีผลต่อการส่งออก ลิ้นจี่ของไทยด้วย

นายไตรภพ แซ่ย่าง ประธานเครือข่ายผู้ปลูกลิ้นจี่เชียงใหม่ (เขตอำเภอเมือง แม่ริม หางดง) กล่าวว่า ฤดูกาลปีนี้ผลผลิตลิ้นจี่ลดลงกว่า 30% ผลผลิตโดยรวมอาจจะไม่ถึง 600 ตัน เนื่องจากสภาวะอากาศแปรปรวนและเกิดภัยธรรมชาติ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ควบคุม ไม่ได้แม้จะขายได้ราคาดี แต่กลับไม่คุ้มค่าต่อต้นทุนการผลิตของเกษตรกรที่บำรุงรักษาตลอดทั้งปี

เจ้า ของสวนลิ้นจี่ในอำเภอไชยปราการกล่าวว่า ต้นทุนการผลิตสูงมาก พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกลิ้นจี่ 25 ต้น มีต้นทุนการผลิต 12,000-18,000 บาท/ไร่ ได้ผลผลิตประมาณ 1,000 ก.ก./ไร่ ซึ่งผลผลิตที่ขายได้เมื่อหักต้นทุนค่าใช้จ่ายคำนวณตัวเลขทุกอย่างแล้วคือขาด ทุน

พันธุ์ลิ้นจี่ที่ปลูกในเชียงใหม่ ได้แก่ พันธุ์จักรพรรดิ เนื้อที่ปลูก 31,470 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 55 รองลงมาคือ พันธุ์ฮงฮวย เนื้อที่ปลูก 23,460 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 41 และพันธุ์อื่น ๆ เนื้อที่ปลูก 2,292 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 4

ขณะที่นายสุเทพ ทิพย์รัตน์ เกษตรจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ปีนี้พื้นที่ ปลูกลิ้นจี่ในจังหวัดเชียงรายลดลงจาก 5 หมื่นไร่ เหลือประมาณ 3 หมื่นไร่ สาเหตุเพราะบางส่วนหันไปปลูกยางพารา และเกิดจากปัญหาสภาพอากาศแปรปรวนในช่วงต้นปี จึงทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยกว่าปีที่ผ่านมาถึง 20% หรือประมาณ 11,000 ตัน ทำให้ราคาสูงขึ้น

นางกาดแก้ว วงศ์แหวน เจ้าของสวนลิ้นจี่จันทร์สม อ.แม่จัน จ.เชียงรายกล่าวว่า ราคาขั้นต่ำหน้าสวน ก.ก.ละ 50 บาท และจำหน่ายในตัวเมืองเชียงราย ก.ก.ละ 60-80 บาท หากรับซื้อไปขายในต่างจังหวัดจะสูงถึง ก.ก.ละ 120-150 บาท จากเดิมราคาปกติ ก.ก.ละ 25-30 บาท

สำหรับจังหวัดพะเยาประมาณผลผลิตลิ้นจี่ก็ลดลงเช่น กัน โดยมีผลผลิตเพียง 6,000 ตัน จากเดิมเคยมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากถึง 8,038 ตัน จากพื้นที่ปลูก 6 อำเภอ ประมาณ 20,707 ไร่

Tags :

view