จาก โพสต์ทูเดย์
“พาณิชย์” กำหนดราคาควบคุมเนื้อไก่ตั้งแต่ฟาร์มยันขายปลีกทั่วประเทศ มีผลวันนี้ หลังราคาเนื้อไก่พุ่ง 17% เหตุผลผลิตลด 20% จากภูมิอากาศเปลี่ยน
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยหลังการหารือกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ และผู้เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาเนื้อไก่ราคาแพงว่า กรมจะออกประกาศกำหนดราคาแนะนำเนื้อไก่ทั้งระบบตั้งแต่หน้าฟาร์มจนถึงราคาขาย ปลีก มีผลบังคับใช้วันที่ 25 พ.ค. เป็นต้นไป ซึ่งราคาดังกล่าวจะเป็นขอความร่วมมือให้ผู้ค้าจำหน่ายไก่เนื้อตามที่กรม กำหนด โดยราคาไก่สดมีชีวิตหน้าฟาร์มกรุงเทพฯ และภาคกลางกก.ละ 55 บาท ภาคเหนือ 57 บาท ภาคอีสาน 58 บาท และภาคใต้ 60 บาท
ไก่สดทั้งตัวแบบปั่นขน กรุงเทพฯและภาคกลางขายปลีก กก.ละ 70 บาท ขายส่ง 65 บาท ภาคเหนือขายปลีก 72 บาท ขายส่ง 67 บาท ภาคอีสานขายปลีก 73 บาท ขายส่ง 68 บาท และภาคใต้ขายปลีก 75 บาท ขายส่ง 70 บาท
ส่วนราคาไก่สดทั้งตัวแบบล้วง (ไม่มีเครื่องใน) กรุงเทพฯ และภาคกลาง ขายปลีกกก.ละ 75 บาท ขายส่ง 70 บาท ภาคเหนือขายปลีก 77 บาท ขายส่ง 72 บาท ภาคอีสานขายปลีก 78 บาท ขายส่ง 73 บาท และภาคใต้ขายปลีก 80 บาท ขายส่ง 75 บาท
เนื้อไก่ หรือไก่แยกส่วนเนื้อสะโพก อก ปีกกรุงเทพฯและปริมณฑล ขายปลีกกก.ละ 85-92 บาท ขายส่ง 80-86 บาท ภาคเหนือขายปลีก 87-94 บาท ขายส่ง 82-88 บาท ภาคอีสานขายปลีก 88-95 บาท ขายส่ง 83-89 บาท และภาคใต้ขายปลีก 90-97 บาท ขายส่ง 85-91 บาท
สำหรับสาเหตุที่ราคาเนื้อไก่สูงขึ้นนั้น เป็นผลกระทบจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้ผลผลิตไก่ลดลง 20% จากปกติที่มีไก่ออกสู่ตลาดสัปดาห์ละ 22 ล้านตัว ลดเหลือเพียง 18 ล้านตัวเท่านั้น ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงไก่ปรับสูงขึ้น โดยขณะนี้ต้นทุนได้เพิ่มมาเป็นกก.ละ 50-51 บาท ส่งผลให้ราคาขายส่งและขายปลีกปรับตัวขึ้นตามเฉลี่ย 17% เมื่อเทียบกับราคาขายช่วงปีที่แล้ว ซึ่งคาดว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายภายใน 2 เดือน โดยกรมจะทบทวนราคาใหม่ แต่หากราคาผันผวนหรือเปลี่ยนแปลงรวดเร็วก็อาจมีการทบทวนราคาแนะนำก่อน 2 เดือน
