จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ผอ.พุทธศาสนา ย้ำมติมหาเถรสมาคม 2549 ห้ามพระ, เณร ยุ่งการเมือง ห้ามใช้วัดหาเสียง พบพระช่วยหาเสียง แขวนรูปผู้สมัคร ผิดระเบียบให้เจ้าคณะลงโทษ
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) และเริ่มหาเสียงกันแล้ว ขณะนี้ ได้รับรายงาน มีพระบางกลุ่มไปทำกิจกรรมการเมือง เช่น หาเสียงกับผู้สมัคร ทำบัตรรูปผู้สมัครแขวนคอ ดังนั้น พศ.ขอแจ้งเตือนไปยังพระทั่วประเทศว่า ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง รวมทั้งไม่ให้ใช้ที่วัดหาเสียง หรือจัดกิจกรรมทางการเมือง แต่พระสงฆ์สามารถเทศน์สอนประชาชนให้รู้จักวิธีเลือกคนดี ไม่รับเงินซื้อเสียงได้ แต่ต้องไม่ชี้นำ ใครเหมาะหรือไม่เหมาะสม
นายนพรัตน์ กล่าวต่อไปว่า พศ.จะนำคำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่องห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ.2538 แจ้งไปยังเจ้าคณะปกครองแจ้งให้พระสงฆ์สามเณรได้ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว ดังนี้ ห้ามพระภิกษุสามเณรเข้าไปในที่ชุมนุมทางการเมืองไม่ว่ากรณีใด รวมทั้งทำการใดๆ อันเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่การหาเสียง เพื่อการเลือกตั้งส.ส. หรือสภาเทศบาล หรือสภาการเมืองอื่นใดแก่บุคคลหรือคณะบุคคลใดๆ และห้ามร่วมชุมนุมในการเรียกร้องสิทธิของบุคคลหรือร่วมอภิปรายหรือบรรยายเรื่องการเมืองซึ่งจัดขึ้นที่วัดและนอกวัดด้วย
"คำสั่งนี้ยังมอบหมายให้พระสังฆาธิการชี้แจงแนะนำผู้อยู่ภายใต้ปกครองของตนให้ทราบคำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ และกวดขันอย่าให้มีการฝ่าฝืนละเมิด หากพระภิกษุสามเณรรูปใดฝ่าฝืนให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของตน ถ้าความผิดเกิดขึ้นนอกเขตสังกัด ให้เจ้าคณะเจ้าของเขตที่มีความผิดเกิดขึ้นว่ากล่าวตักเตือนแจ้งให้พระสังฆาธิการดำเนินการ รวมทั้งให้พระสังฆาธิการผู้มีอำนาจหน้าที่ในการปกครองทุกชั้นปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำสั่งมหาเถรสมาคมอย่างเคร่งครัด" ผอ.สำนักพุทธศาสนา กล่าว
นายนพรัตน์ กล่าวอีกว่า พศ.จะนำมติมหาเถรสมาคม พ.ศ.2549 เรื่องพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง แจ้งเจ้าคณะปกครองด้วย เพื่อขอให้พระสงฆ์สามเณรดำรงตนอยู่ในสถานะอันเป็นที่เคารพนับถือของประชาชน เพื่อป้องกันข้อครหาในการที่พระสงฆ์จะแสดงตนเป็นปฎิปักข์หรือสนับสนุนอีกฝ่ายหนึ่ง เนื่องจากการเลือกตั้งเป็นเรื่องของคฤหัสถ์ สำหรับพระภิกษุสงฆ์ไม่มีหน้าที่กับการเลือกตั้ง จึงไม่สมควรจะแสดงตนเป็นคุณและโทษต่อพรรคการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น