จาก โพสต์ทูเดย์
อุตฯ เตรียมเรียกโรงงานขอความร่วมมือปล่อยน้ำตาล หลังปริมาณค้างกระดานสูง คาดจะทำให้ราคาน้ำตาลในตลาดบางพื้นที่ลดลงมาอยู่ในภาวะปกติได้
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์หน้ากระทรวงอุตสาหกรรมจะเชิญผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลเข้ามา หารือ เพื่อขอความร่วมมือให้โรงงานปล่อยน้ำตาลส่วนเกินที่ยังไม่มีการทำสัญญาออกมา จำหน่าย เนื่องจากขณะนี้มีปริมาณน้ำตาลทรายเหลือค้างกระดานอยู่กว่า 1.71 ล้านกระสอบ หากปล่อยน้ำตาลออกมาในปริมาณที่มากกว่าปัจจุบันจะช่วยให้ราคาน้ำตาลที่ จำหน่ายภายในประเทศลดลงมาอยู่ในระดับราคาควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ได้ โดยในตอนนี้ราคาเฉลี่ยลดลงมาประมาณ 2 บาทต่อกิโลกรัมแล้ว บางพื้นที่ราคาเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่บางพื้นที่ราคายังอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ หากโรงงานน้ำตาลปล่อยน้ำตาลออกมาเหมือนภาวะปกติ เมื่อรวมกับน้ำตาลโควตาของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ที่ซื้อคืนกลับมาและกระจายเพิ่มอยู่ 5 หมื่นกระสอบต่อสัปดาห์แล้ว น่าจะทำให้ราคาน้ำตาลทรายลดลงได้มากกว่านี้
นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาว่าจะจัดสรรน้ำตาลให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมเครื่องดื่มตามที่ขอ ใช้น้ำตาลเพิ่มจำนวน 3.8 หมื่นกระสอบ เพราะตอนนี้มีน้ำตาลเหลือค้างกระดานเยอะ
“โรงงานน้ำตาลอ้างว่าการที่ไม่กระจายน้ำตาลออกมา เนื่องจากกระจายออกมาแล้วไม่มีคนซื้อ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ปริมาณการจำหน่ายน้ำตาลน้อยลง จึงจะเรียกมาขอความร่วมมือให้ปล่อยน้ำตาลออกมา เพื่อจะช่วยดึงราคาน้ำตาลในบางพื้นที่ที่ยังสูงอยู่ให้ลดลงมา” นายวิฑูรย์ กล่าว
สำหรับปริมาณน้ำตาลค้างกระดาน ณ วันที่ 21 ต.ค. 2553 มีน้ำตาลค้างกระดานทั้งสิ้น 1.71 ล้านกระสอบ แบ่งเป็นส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม 1.38 ล้านกระสอบ และของกระทรวงพาณิชย์ 3.26 แสนกระสอบ โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์หากขายไม่หมดจะเอาคืนกลับมา แต่คาดว่าเหลือเวลาอีกประมาณ 2 เดือน น่าจะกระจายออกได้หมด
ส่วนน้ำตาลของกองทุนฯ ที่ซื้อคืนมาจำนวน 7.43 แสนกระสอบ ในสัปดาห์หน้าจะเป็นการกระจายในงวดที่ 6 จำนวน 5 หมื่นกระสอบ รวมกระจายออกไปได้แล้วประมาณ 4 แสนกระสอบ และคาดว่าจะกระจายออกหมดได้ภายในสิ้นปีนี้
นายพงษ์เทพ จารุอำพรพรรณ รองเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมไม่น่าจะมีผลกระทบต่อไร่อ้อย และปริมาณอ้อย โดยในฤดูกาลผลิตปี 2553/2554 มีการประเมินปริมาณอ้อยไว้ที่65 ล้านตัน แต่เมื่อมีฝนมาดีปริมาณอ้อยน่าจะอยู่ที่ 67-68 ล้านตันได้ แต่อาจกระทบต่อคุณภาพอ้อยบ้าง ทำให้ค่าความหวานอ้อยลดลง เพราะอ้อยจะอุ้มน้ำมากขึ้น ส่วนการเปิดหีบอ้อยในปีหน้าน่าจะอยู่ในช่วงกลางเดือนธ.ค.นี้ โดยได้จัดสรรน้ำตาลโควตา ก (น้ำตาลเพื่อการบริโภคในประเทศ) ไว้ที่ 25 ล้านกระสอบ